Professional Documents
Culture Documents
30. การวัด_ม2
30. การวัด_ม2
การวัด
....................................................................................................................................
1. ความเป็นมาของการวัด
ในสมัยโบราณบรรพบุรุษของเรายังไม่มีเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการวัดระยะทาง เวลา พื้นที่
และปริมาตร การสื่อความหมายเกี่ยวกับการวัดของคนสมัยนั้นอาศัยสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ หรือกิจกรรมที่
ทากันเป็นกิจวัตรเป็นเครื่องมือในการบอกระยะทาง เวลา พื้นที่ และปริมาตร ซึ่งเป็นการสื่อความหมาย
เกี่ยวกับการวัดที่ได้จากการสังเกตและการคาดคะเนอย่างหยาบ ๆ ทาให้บางครั้งเกิดปัญหาการสื่อความหมาย
ไม่ตรงกันเช่น
การสื่อความหมายเกี่ยวกับระยะทาง
บ้านกานันอยู่ห่างจากบ้านของเราประมาณสองคุ้งน้า
ที่นาของป้าจันทร์อยู่ห่างจากที่นี่ชั่วเวลาเคี้ยวหมากจืดสนิทพอดี
วัดอยู่ไม่ไกลหรอกแค่เดินไปชั่วหม้อข้าวเดือดเท่านั้น
หมู่บ้านนาโต่งอยู่ไกลจากที่นี่เท่ากับเสียงช้างร้อง
การสื่อความหมายเกี่ยวกับเวลา
ให้ออกจากบ้านก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
ตื่นนอนตอนไก่ขัน
กลับเถอะนกบินกลับรังแล้ว (หมายถึงเย็นแล้ว)
การสื่อความหมายเกี่ยวกับปริมาณอื่น ๆ
มีทองเท่าหนวดกุ้งหุง
ข้าวสักสองกามือ
ใช้เกลือสักหยิบมือหนึ่ง
การสื่อความหมายเกี่ยวกับการวัดได้มีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ ตามยุคสมัยเมื่อมีการติดต่อไปมาระหว่าง
ชุมชนมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนทาให้ต้องมีหน่วยการวัดและเครื่องมือที่ใช้วัดที่ชัดเจนเพื่อสื่อความหมายได้
ตรงกันมากขึ้น เช่น หน่วยการบอกเวลาเป็นทุ่ม และหน่วยการตวงเป็นทะนาน ต่อมาหน่วยการวัดและ
เครื่องมือที่ใช้วัดได้พัฒนาเรื่อยมาจนเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้
สาหรับการวัดความยาวมีวิวัฒนาการเป็นลาดับคร่าว ๆ ตามที่เห็นได้ชัดเจนมีดังนี้
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าการบอกระยะทางใกล้ไกลของคนไทยในสมัยโบราณเป็นการบอก
ระยะทางอย่างหยาบ ๆ ซึ่งอาจทาให้เข้าใจไม่ตรงกัน ต่อมาเมื่อชุมชนมีการคมนาคมติดต่อแลกเปลี่ยนซื้อขาย
กันมากขึ้น จึงได้พัฒนาหน่วยการวัด และเครื่องมือที่ใช้วัดให้เกิดความเข้าใจตรงกันในวงกว้างขึ้น ในระยะแรก
ๆ มีการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นเกณฑ์อ้างอิง เช่น น้าลึก 2 ศอก ผ้ากว้าง 3 คืบ ไม้กระดานยาว 4 วา
นอกจากเราจะมีหน่วยการวัดที่เป็นมาตรฐานสากลแล้ว เครื่องมือที่ใช้วัดที่มีความสาคัญมากเช่นกัน
กล่าวคือ จะต้องเป็นเครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐาน ค่าที่วัดได้ทุกครั้งจะต้องมีความเที่ยงตรง
ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาหน่วยการวัดและเครื่องมือที่ใช้วัดให้มีความเที่ยงตรงเป็นมาตรฐานเพียงใดก็ตาม
ค่าที่วัดได้เหล่านั้นก็เป็นเพียงค่าประมาณที่ได้จากการวัดตามหน่วยการวัดที่เหมาะสมเท่านั้น เช่น อาจวัดเป็น
จานวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด วัดเป็นทศนิยมหนึ่งตาแหน่งที่ใกล้เคียงที่สุด หรือ วัดเป็นทศนิยมสองตาแหน่งที่
ใกล้เคียงที่สุด ฯลฯ ในการวัดจะวัดให้ละเอียดเพียงใดขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการวัด
2. การวัดความยาว
หน่วยการวัดความยาวที่นิยมใช้กันในประเทศไทย ได้แก่ หน่วยการวัดความยาวในระบบเมตริก ระบบ
อังกฤษ และมาตราไทย หน่วยการวัดความยาวที่สาคัญซึ่งนักเรียนควรรู้จัก ดังนี้
หน่วยการวัดความยาวในระบบเมตริก
10 มิลลิเมตร เท่ากับ 1 เซนติเมตร
100 เซนติเมตร เท่ากับ 1 เมตร
1,000 เมตร เท่ากับ 1 กิโลเมตร
หน่วยการวัดความยาวในระบบอังกฤษ
12 นิ้ว เท่ากับ 1 ฟุต
3 ฟุต เท่ากับ 1 หลา
1,760 หลา เท่ากับ 1 ไมล์
หน่วยการวัดความยาวในมาตราไทย
12 นิ้ว เท่ากับ 1 คืบ
2 คืบ เท่ากับ 1 ศอก
4 ศอก เท่ากับ 1 วา
20 วา เท่ากับ 1 เส้น
400 เส้น เท่ากับ 1 โยชน์
กาหนดการเทียบ 1 วา เท่ากับ 2 เมตร
หน่วยการวัดความยาวในระบบอังกฤษเทียบกับระบบเมตริก (โดยประมาณ)
1 นิ้ว เท่ากับ 2.54 เซนติเมตร
1 หลา เท่ากับ 0.9144 เมตร
1 ไมล์ เท่ากับ 1.6093 กิโลเมตร
ตัวอย่างที่ 1 ให้นักเรียนเปลี่ยนหน่วยการวัดความยาวในระบบเดียวกันและต่างระบบกัน
1. คุณป้ามาลีสูง 155 เซนติเมตร อยากทราบว่าคุณป้ามาลีสูงกี่เมตร
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 1 : การเลือกหน่วยการวัดที่เหมาะสม
1. ให้นักเรียนเติมหน่วยการวัดในเรื่องต่อไปนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ตัวอย่าง ช่างวัดขนาดของกระจกสาหรับใส่บานหน้าต่าง
คาตอบ ควรใช้หน่วยเป็นเมตรและวัดให้ละเอียดถึงทศนิยมตาแหน่งที่สอง หรือควรใช้หน่วยเป็น
เซนติเมตรและวัดให้ละเอียดถึงทศนิยมตาแหน่งที่หนึ่ง
1) พ่อค้าวัดความยาวของผ้าเพื่อขายให้แก่ลูกค้า
.........................................................................................................................
2) ช่างไม้วัดความยาวของไม้เพื่อเลื่อยไม้มาทาบานประตู
.........................................................................................................................
3) วัดความยาวจากเสารั้วหน้าบ้านถึงเสารั้วหลังบ้านเพื่อซื้อลวดหนามมาจึงรั้ว
.........................................................................................................................
4) วัดความยาวและความกว้างของกระจกเพื่อใส่กรอบรูป
.........................................................................................................................
5) วัดความยาวของไม้อัดเพื่อเลื่อยมาประกอบตู้
.........................................................................................................................
6) วัดระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียน
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 2 : คาดคะเนความยาว
การวัดความยาวในบางครั้งอาจไม่จาเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ใช้วัดโดยตรงถ้าการวัดนั้นต้องการทราบ
ความยาวอย่างคร่าว ๆ เราอาจใช้การคาดคะเนได้คาดคะเนความยาว
1. ในแต่ละสถานการณ์ต่อไปนี้นักเรียนควรคาดคะเนสิ่งใดเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ
จงอธิบาย
1) ขับรถบรรทุกของสูงผ่านใต้สะพานลอย
.........................................................................................................................
2) ขับรถผ่านเข้าไปในซอยที่มีรถจอดอยู่สองข้าง
.........................................................................................................................
3) ยกตู้เสื้อผ้าที่ประกอบสาเร็จแล้วไปไว้ในห้อง
.........................................................................................................................
4) ต้องการกระโดดข้ามคูน้า
.........................................................................................................................
5) นักกีฬาพยายามทาสถิติกระโดดสูง
.........................................................................................................................
6) หากล่องมาใส่ของขวัญให้เพื่อน
.........................................................................................................................
3. จงคาดคะเนขนาดของสิ่งที่กาหนดให้ต่อไปนี้ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการคาดคะเน
1) ความสูงของครู
2) ความสูงของเพื่อน
3) ความกว้างและความยาวของห้องเรียน
4) ความสูงของประตูห้องเรียน
5) ระยะทางจากประตูโรงเรียนถึงโรงอาหาร
6) ความยาวรอบอาคารเรียน
4. จงบอกชื่อสิ่งของที่นักเรียนคาดคะเนว่า จะมีความยาวเท่ากับความยาวที่กาหนดให้ในช่องซ้ายมือของ
ตาราง
ความยาว ชื่อสิ่งของ
5 มิลลิเมตร
15 เซนติเมตร
3 เมตร
1 เมตร
75 เซนติเมตร
3. การวัดพื้นที่
หน่วยการวัดพื้นที่
นักเรียนทราบมาแล้วว่า เราใช้พื้นที่ในการบอกขนาดของเนื้อที่ เช่นต้องการบอกขนาดของเนื้อที่นา
หรือ เนื้อที่ของสนามหญ้า ซึ่งต้องคานวณหาพื้นที่ และบอกเป็นหน่วยการวัดพื้นที่ ตัวอย่าง เช่น กรมที่ดิน
รังวัดที่นาของลุงแดงแล้วคานวณได้พื้นที่โดยประมาณเป็น 10 ไร่ 2 งาน 15 ตารางวา
นักเรียนคุ้นเคยกับการวัดพื้นที่และใช้หน่วยการวัดพื้นที่ในระบบเมตริก และมาตราไทยซึ่งใช้หน่วยการ
วัดพื้นที่เป็นตารางหน่วย หรือ หน่วย 2 ตามหน่วยการวัดความยาวมาแล้ว เช่น
D C
2 วา พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ABCD
เท่ากับ .............................. ตารางวา
A B
5 วา
1 ม. ........ ซม.
A B A B
1 ม. ......... ซม.
P Q P Q
1 ฟุต ......... นิ้ว
ในชีวิตประจาวันเรายังมีความจาเป็นต้องมีการซื้อขายที่ดิน ซึ่งการคิดพื้นที่ของไทยยังนิยมบอกพื้นที่
เป็นหน่วยในมาตราไทยเป็น ไร่ งาน และ ตารางวา แต่ในการจ้างเหมาซื้อดินมาถมที่บางครั้งผู้รับเหมาจะ
คานวณความยาว และพื้นที่เป็นที่เป็นหน่วยในระบบเมตริก เป็นตารางเมตร หรือคานวณปริมาตรเป็นลูกบาศก์
เมตร ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการใช้งานจึงต้องมีการปรียบเทียบหน่วยระหว่างระบบหรือมาตรา ดัง
ตัวอย่าง
1 วา ........ เมตร
A B A B
1 วา ......... เมตร
หน่วยการวัดพื้นที่ที่สาคัญซึ่งนักเรียนควรรู้จักมีดังนี้
หน่วยการวัดพื้นที่ในระบบเมตริก
1 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 100 หรือ 102 ตารางมิลลิเมตร
1 ตารางเมตร เท่ากับ 10,000 หรือ 104 ตารางเซนติเมตร
1 ตารางกิโลเมตร เท่ากับ 1,000,000 หรือ 106 ตารางเมตร
หน่วยการวัดพื้นที่ในระบบอังกฤษ
1 ตารางฟุต เท่ากับ 144 หรือ 122 ตารางนิ้ว
1 ตารางหลา เท่ากับ หรือ 32 ตารางฟุต
9
1 เอเคอร์ เท่ากับ 4,840 ตารางหลา
1 ตารางไมล์ เท่ากับ 640 เอเคอร์
หน่วยการวัดพื้นที่ในมาตราไทย
100 ตารางวา เท่ากับ 1 งาน
4 งาน เท่ากับ 1 ไร่
หรือ 400 ตารางวา เท่ากับ 1 ไร่
หน่วยการวัดพื้นที่ในมาตราไทยเทียบกับระบบเมตริก
1 ตารางวา เท่ากับ 4 ตารางเมตร
1 งาน เท่ากับ 400 ตารางเมตร
หรือ 1 ไร่ เท่ากับ 1,600 ตารางเมตร
1 ตารางกิโลเมตร เท่ากับ 625 ไร่
หน่วยการวัดพื้นที่ในระบบอังกฤษเทียบกับระบบเมตริก (โดยประมาณ)
1 ตารางนิ้ว เท่ากับ 6.4516 ตารางเซนติเมตร
1 ตารางฟุต เท่ากับ 0.0929 ตารางเมตร
1 ตารางหลา เท่ากับ 0.8361 ตารางเมตร
1 เอเคอร์ เท่ากับ 4046.856 ตารางเมตร (2.529 ไร่)
1 ตารางไมล์ เท่ากับ 2.5899 ตารางกิโลเมตร
ตัวอย่างที่ 2 จงเปลี่ยนหน่วยพื้นที่ในแต่ละข้อต่อไปนี้
1) พื้นที่ 12,500 ตารางเซนติเมตร คิดเป็นกี่ตารางเซนติเมตร
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
7
5) พื้นที่ 13 ไร่ คิดเป็นกี่ไร่ กี่งาน และ กี่ตารางวา
10
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 3 : พื้นที่ในมาตราเดียวกัน
1. จงตอบคาถามต่อไปนี้
1) พื้นที่ 5 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นกี่ตารางเมตร
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
ในการเปรียบเทียบพื้นที่ที่มีหน่วยการวัดพื้นที่ต่างระบบหรือต่างมาตราจาเป็นต้องทาให้มีหน่วยการวัด
พื้นที่เป็นอย่างเดียวกันก่อนดังตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 3 จังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะที่สวยงามอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยมีพื้นที่ประมาณ
570 ตารางกิโลเมตร ประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะอยู่ทางใต้ของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ
246.7 ตารางไมล์ เกาะใดมีพื้นที่มากกว่าและมากกว่ากันประมาณเท่าไร
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 4 : พื้นที่ต่างมาตรา
1. ในแต่ละข้อได้กาหนดการเทียบหน่วยให้จงตอบคาถามต่อไปนี้
1) พื้นที่ 20 ตารางฟุต ประมาณเป็นกี่ตารางเมตร (1 ตารางฟุตเท่ากับ 0.09 ตารางเมตร)
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 5 :
ในทางปฏิบัติการใช้หน่วยการวัดพื้นที่กับเนื้อที่ใด ๆ จะต้องคานึงถึงความเหมาะสมของหน่วยที่จะใช้กับ
ขนาดของสิ่งที่จะวัดตามที่นิยมกัน
ให้นักเรียนเติมจานวนหน่วยความยาวหรือหน่วยพื้นที่ในช่องว่างให้เหมาะสมกับสถานการณ์และ
คานึงถึงเนื้อที่ที่มีอยู่
ช่างทาสีคานวณพื้นที่ของฝาห้องและเพดานที่ต้องทาสีเป็นหน่วย .....................................
ช่างปูกระเบื้องคานวณพื้นที่ที่ต้องปูพื้นเป็นหน่วย ........................ และเตรียมซื้อกระเบื้องที่มี
ขนาด 20 20 .................... สาหรับปูพื้นชั้นล่างของบ้านจานวน 80 กล่องกล่องละ 25 แผ่น
ซึ่งกระเบื้อง 1 กล่องสามารถปูพื้นได้ประมาณ 1 .....................
ข้อควรระวัง
นักเรียนตรวจสอบหรือยังว่าขนาดของพื้นที่ต่าง ๆ ที่นักเรียนเต็มจานวนและหน่วยลงไปในช่องว่างนั้นเกินกว่า
พื้นที่ของที่ดินของเงาะหรือไม่
การคานวณเกี่ยวกับพื้นที่
กิจกรรมที่ 6 : พื้นที่กับความยาวด้าน
จงหาพื้นที่ของรูปต่างๆ ต่อไปนี้ โดยเขียนความสัมพันธ์ของความยาวของด้านที่เกี่ยวข้องกันเติมใน
ช่องว่าง ดังตัวอย่าง
ตัวอย่าง
D C
ABCD เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
พื้นที่ของ ABCD เท่ากับ AB BC ตารางหน่วย
A B
1. C ABC เป็นรูปสามเหลี่ยมใด ๆ
พื้นที่ของ ABC เท่ากับ ......................................
A D B
2. D C ABCD เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน
พื้นที่ของ ABCD เท่ากับ ....................................
A E B
3. S R PQRS เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
พื้นที่ของ PQRS เท่ากับ ....................................
P T Q
4. G
DEFG เป็นรูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว
D F พื้นที่ของ DEFG เท่ากับ ....................................
B
5.
DABCD เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
A C พื้นที่ของ DABCD เท่ากับ ....................................
6.
S
DPQRS เป็นรูปสี่เหลี่ยมใด ๆ
พื้นที่ของ LPQRS เท่ากับ ....................................
Y R
P
X
ในบางครั้งการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตอาจต้องคานวณหาพื้นที่มากกว่าหนึ่งขั้นตอน และอาจต้องใช้
ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของด้านจากสูตรต่างๆข้างต้น ดังตัวอย่าง
2 ซม
1 ซม 5 ซม
2 ซม
1.5 ซม 1.5 ซม
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
A C
D
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
3 ม. BR = 11 เมตร DN = 4 เมตร
4 ม. RN = 7 เมตร CR = 6 เมตร
7 ม.
6 ม.
11 ม.
15 ม.
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 7 : ใครใหญ่กว่ากัน
1. กานันศรแบ่งที่ดินให้ลูก 4 คน แต่ละคนได้ที่ดินมีลักษณะและขนาดตามรูปที่แรเงาดังต่อไปนี้
ต้อย เต๋า
2 วา 2 วา
5 วา 6 วา
แต๋ว
5 วา ติ่ง
2 วา 2 วา
6 วา 5 วา
1) ให้นักเรียนเขียนชื่อลูก ๆ ของกานั้นเรียงลาดับจากคนที่ได้รับที่ดินแปลงใหญ่ไปหาที่ดินแปลงเล็กเอ
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
2) นักเรียนมีวิธีพิจารณาหาคาตอบของข้อ 1) ได้อย่างไรโดยไม่ใช้การคานวณจงอธิบาย
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
12 ซม.
15 ซม.
25 ซม. 20 ซม.
38 ซม. 10 ซม.
25 ซม.
30 ซม.
22 ซม.
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
3. เต๋าเก็บใบไม้มา 2 ใบ ให้แต้วหาว่าใบไหนใหญ่กว่ากัน
นักเรียนคิดว่าแต้วจะบอกได้หรือไม่ และควรจะมีวิธีการพิจารณาอย่างไรจงอธิบาย
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
4. การวัดปริมาตรและน้าหนัก
จงพิจารณาภาพต่อไปนี้
กิจกรรมที่ 8 : คะเนได้เท่าไร
นักเรียนคิดว่าการคาดคะเนในแต่ละสถานการณ์ต่อไปนี้ เป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่จงอธิบาย
1. กชกรต้องการซื้อส้มเขียวหวานชนิดคัดผล 2 กิโลกรัมจากส้มกองหนึ่ง
เมื่อหยิบส้มหนึ่งผลวางบนตาชั่ง สังเกตว่ามีน้าหนักมากกว่า 1 ขีดเล็กน้อย เธอจึงหยิบส้มใส่ถุงให้
แม่ค้าชั่ง 17 ผล
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
การวัดปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
นักเรียนเคยทราบมาแล้วว่าเราใช้หน่วยการวัดปริมาตรเป็น ลูกบาศก์หน่วย หรือ หน่วย 3 ตามหน่วย
ของความยาวที่ใช้ในสถานการณ์นั้น
หน่วยการวัดปริมาตรและหน่วยการวัดน้าหนัก
หน่วยการวัดปริมาตรและน้าหนักที่สาคัญซึ่งนักเรียนควรรู้จักมีดังนี้
หน่วยการวัดปริมาตรในระบบเมตริก
1 ลูกบาศก์เซนติเมตร เท่ากับ 1,000 หรือ 103 ลูกบาศก์มิลลิเมตร
1 ลูกบาศก์เมตร เท่ากับ 1,000,000 หรือ 106 ลูกบาศก์เซนติเมตร
1 ลูกบาศก์เซนติเมตร เท่ากับ 1 มิลลิลิตร
1 ลิตร เท่ากับ 1,000 หรือ 103 มิลลิลิตร
หรือ 1 ลิตร เท่ากับ 1,000 หรือ 103 ลูกบาศก์เซนติเมตร
1,000 ลิตร เท่ากับ 1 ลูกบาศก์เมตร
หน่วยการวัดปริมาตรในระบบอังกฤษ
3 ช้อนชา เท่ากับ 1 ช้อนโต๊ะ
16 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ 1 ถ้วยตวง
1 ถ้วยตวง เท่ากับ 8 ออนซ์
หน่วยการวัดปริมาตรในระบบอังกฤษเทียบกับระบบเมตริก (โดยประมาณ)
1 ช้อนชา เท่ากับ 5 ลูกบาศก์เซนติเมตร
1 ถ้วยตวง เท่ากับ 240 ลูกบาศก์เซนติเมตร
หน่วยการวัดน้าหนักในระบบเมตริก
1 กรัม เท่ากับ 1,000 หรือ 103 มิลลิกรัม
1 กิโลกรัม เท่ากับ 1,000 หรือ 103 กรัม
1 เมตริกตัน เท่ากับ 1,000 หรือ 103 กิโลกรัม
หน่วยการวัดน้าหนักในระบบเมตริกเทียบกับระบบอังกฤษ (โดยประมาณ)
1 กิโลกรัม เท่ากับ 2.2046 ปอนด์
1 ปอนด์ เท่ากับ 0.4536 กิโลกรัม
หน่วยการตวงระบบประเพณีไทยเทียบกับระบบเมตริก
กระทรวงพาณิชย์ได้กาหนดการเทียบหน่วยการตวงระบบประเพณีไทยกับระบบเมตริก
เพื่อการซื้อขาย คือกาหนดให้
ข้าวสาร 1 ถัง มีน้าหนัก 15 กิโลกรัม
ข้าวสาร 1 กระสอบ มีน้าหนัก 100 กิโลกรัม
กิจกรรมที่ 9 : ห้องครัวของรจนา
ให้นักเรียนทากิจกรรมต่อไปนี้ห้องครัวของรจนา
นักเรียนคิดว่าในห้องครัวของรจนาน่าจะมีสิ่งใดอยู่อีกบ้างจงเขียนระบุเพิ่มเติมตามใจชอบอีก 2 สิ่ง
พร้อมทั้งบอกปริมาณและหน่วยที่เหมาะสม
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 10 : วัดเกลือ
ให้นักเรียนทากิจกรรมต่อไปนี้
นักเรียนจงใช้ความรู้ที่ว่า 1 วา เท่ากับ 2 เมตร 1 เกวียน เท่ากับ 100 ถัง 1 ถัง เท่ากับ 20 ลิตร
และ 1 ลิตร เท่ากับ 1,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร มาอธิบายให้เห็นว่าสูตรการหาปริมาตรดังกล่าว
เป็นจริง
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
5. การวัดเวลา
นักเรียนคิดว่าปีใดต่อไปนี้เป็นปีอธิกสุรทิน
1) ค.ศ. 1944 2) ค.ศ. 2010
..................................................... ........................................................
3) ค.ศ. 2100 4) ค.ศ. 2400
..................................................... ........................................................
5) ค.ศ. 2443 6) พ.ศ. 2530
..................................................... ........................................................
7) พ.ศ. 2543 8) พ.ศ. 2559
..................................................... ........................................................
ในการกาหนดเวลามีข้อตกลงว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง 1 ชั่วโมงมี 60 นาที และ 1 นาทีมี 60 วินาที
ในชีวิตประจาวันของนักเรียนการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสาคัญมากเรื่องหนึ่ง เราจึงจาเป็นต้องเข้าใจให้ตรงกันว่า
เป็นเวลาใดในการที่จะรู้ว่าเป็นเวลาใดนั้น นอกจากจะดูจากนาฬิกาโดยตรงแล้ว บางครั้งก็อาจต้องมีการ
คานวณเวลามาเกี่ยวข้องด้วยดังตัวอย่างต่อไปนี้
อ.รังสรรค์ ทองสุ กนอก GTRmath
คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
หน้า |31
เรื่อง การวัด
ตัวอย่างที่ 14 ปานไปเที่ยวที่ประเทศอียิปต์เขาใช้กล้องถ่ายรูปที่บรรจุฟิล์มไปจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว
ถ่ายรูปมหาพีระมิดซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกลับมาฝากเพื่อน ๆ
นิดพิจารณารูปมหาพีระมิดที่ปานถ่ายมา พบว่า ที่ภาพถ่ายบันทึกวันเวลาไว้เป็นเวลา
15.00 น. ของวันที่ 10/05/04 ซึง่ ปานบอกนิดว่าเป็นเวลาของประเทศไทย
ให้นักเรียนหาว่าปานถ่ายภาพนี้ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศอียิปต์ตรงวันที่เท่าไร และ
เวลาใด (เวลาท้องถิ่นของประเทศอียิปต์ช้ากว่าเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 11 : เวลากับชีวิตประจาวัน
ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. เดือนเมษายน 2547 เป็นเดือนที่กรุงเทพมหานครฉลองครบรอบ 222 ปี ของการสถาปนากรุง
รัตนโกสินทร์ จงหาว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงประกาศสถาปนา
กรุงรัตนโกสินทร์เมื่อ ปีพ. ศ. ใด และตรงกับ ค.ศ. ใด
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
2. สุมาลินสอบชิงทุนเพื่อไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่นได้ เธอต้องออกเดินทางจาก
กรุงเทพฯไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 20 นาที
ถ้าเครื่องบินออกจากกรุงเทพฯวันที่ 22 กรกฎาคมเวลา 23.10 น. สุมาลินจะถึงประเทศญี่ปุ่น
วันที่เท่าไรและประมาณเวลาใดตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น
(กาหนดให้เวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
3. ปิดภาคเรียนฤดูร้อนมานิตไปฝึกงานที่โรงงานผลิตเสื้อผ้าสาเร็จรูปเพื่อการส่งออก ซึ่งต้องประจา
ที่สานักงานวันละ 8 ชั่วโมง จนจบโครงการฝึกงานโดยไม่มีวันหยุด เขาได้รับค่าตอบแทนเป็นราย
ชั่วโมงชั่วโมงละ 30 บาท มานิตเริ่มปฏิบัติงานวันที่ 1 เมษายน ถึง วันที่ 7 พฤษภาคม มานิต
ทางานตลอดโครงการกี่ชั่วโมง และได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดเท่าไร
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
อ.รังสรรค์ ทองสุ กนอก GTRmath
คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
หน้า |33
เรื่อง การวัด
5. ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ถึง วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2565 คิดเป็นเวลากี่วัน
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
6. ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566 คิดเป็นเวลากี่ปีกี่เดือน และ
กี่วัน
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
กิจกรรมที่ 12 : คิดไว้ใช่หรือยัง
จงพิจารณาว่าการคาดคะเนเวลาในแต่ละสถานการณ์ต่อไปนี้ เหมาะสมหรือไม่
1. โก้ชวนเอกไปร่วมงานครบรอบ 30 ปี ของโรงเรียนโดยนัดจะมารับเวลา 9.15 น. เอกตกลงรับคา
ที่จะไปร่วมงานด้วย แต่ตัวเองจะต้องจัดการกับงานประจาที่จะต้องช่วยแม่ทางานให้เสร็จก่อน
ได้ลองคะเนเวลาดูแล้วว่างานของแม่ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง จึงตั้ง นาฬิกาปลุกไว้ที่ 6
นาฬิกา
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
2. โรงเรียนของจิตราเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้าเวลา 7.50 น. ทุกวัน จิตราจะออกจากบ้านไป
โรงเรียนเวลา 7.10 น. และถึงโรงเรียนก่อนเข้าแถวประมาณ 5 นาที วันนี้ครูนัดให้มาถึง
โรงเรียนก่อน 7.30 น. จิตราจึงออกจากบ้านไปโรงเรียนเมื่อเวลา 6.45 น.
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
3. สาลีเป็นลูกค้าคนแรกที่สั่งข้าวไข่เจียว แม่ครัวใช้เวลาเจียวไข่ 5 นาที จึงได้อาหาร
สีดาตามมาทีหลัง เห็นแม่ครัวยกข้าวไข่เจียวมาให้สาลี จึงสั่งข้าวไข่เจียวด้วย แม่ครัวบอกสีดาว่า
จะเสร็จภายใน 3 นาที
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
4. ตามปกติสมศรีใช้ยาสีฟันหลอดใหญ่ขนาดน้าหนักสุทธิ 160 กรัม 1 หลอด ไปได้นานประมาณ
48 วัน เมื่อยาสีฟันใกล้หมดสมศรีไปซื้อยาสีฟันขนาดเดิมที่ร้านค้าแห่งหนึ่งสมศรีซื้อยาสีฟันมา
1 ห่อ (3 หลอด) และคิดว่าน่าจะใช้ได้นานถึง 6 เดือน
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
5
5. ปกติปูใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนโดยผ่านตลาดประมาณ ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจาก
6
1
โรงเรียนถึงตลาดประมาณ ชั่วโมง วันนี้คุณแม่บอกกับปูว่าตอนเย็นเมื่อเลิกเรียนแล้วให้ปู
4
แวะซื้อปลาทูจากตลาดมาให้แม่ด้วย เพราะแม่จะทาน้าพริกปลาทูเป็นอาหารเย็น ปรากฏว่าปู
เลิกเรียนและเดินทางไปตลาดเมื่อเวลา 16.00 น. ปูคาดคะเนว่าน่าจะไปถึงบ้านก่อนเวลา
17.00 น.
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
6. ต้นและต่อขับรถคนละคันออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปพบกันที่ชะอาต้นออกจากกรุงเทพฯ
เวลา 9 นาฬิกา 15 นาที แวะรับประทานอาหารที่เขาวังครึ่งชั่วโมง แล้วจึงเดินทางต่อจนถึง
ชะอา รวมเวลาที่ใช้ทั้งหมด 3 ชั่วโมง 55 นาที ในขณะที่ต่อเดินทางโดยไม่แวะที่ไหนเลยใช้เวลา
3 ชั่วโมง 15 นาที สรุปได้ว่าต้นขับรถเร็วกว่าต่อ
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
คิดสนุก
ดาวพุธใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 88 วัน ดังนั้นเวลา 1 ปีของดาวพุธจึงมี 88 วัน
ชายคนหนึ่งอายุ 10 ปี บนโลกชายคนนี้มีอายุกี่ปีบนดาวพุธ (คิด 1 ปีบนโลกมี 365 วัน)
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
อ้างอิง
หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน คณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 : สสวท