Professional Documents
Culture Documents
ใช้ภาษาแสดงทรรศนะ
ใช้ภาษาแสดงทรรศนะ
ใช้ภาษาแสดงทรรศนะ
แสดงทรรศนะ
1.
โครงสร ้างของ
การแสดงทรรศนะ
โครงสร ้างของการแสดงทรรศนะ
่ ข้อสนับสนุ น และ สรุป
ประกอบด้วยส่วนสาค ัญ 3 ส่วน คือ ทีมา
่
ทีมา ข้อสนับสนุ น สรุป
ส่วนทีเป็่ นเรืองราวอั
่ นทา ให ้
เป็ นสารทีส ่ าคัญทีสุ
่ ด อาจ
เกิดการแสดงทรรศนะ ข ้อเท็จจริง หลักการ รวมทัง้
่ ่ ่ เป็ นข ้อเสนอแนะ ข ้อ
ทีมาแสดงให ้เห็นถึง ความ ทรรศนะและมติของ ผู ้อืนที
่ ้องแสดง ทรรศนะ ่ วินิจฉัย ข ้อสันนิ ฐาน หรือ
จาเป็ นทีต ผู ้แสดงทรรศนะนามา ใช ้เพือ ่ ้าของ
การประเมินค่า ซึงเจ
นั้นและช่วยให ้ผู ้ร ับสารเกิด ประกอบกับให ้ เป็ น ่ ้
่ ทรรศนะนาเสนอเพือให
ความเข ้าใจ และพร ้อมทีจะ เหตุผลสนับสนุ น ข ้อสรุป ่ จารณา
ผู ้อืนพิ
ร ับฟังทรรศนะให ้ครบถ ้วน ของตน
ยอมร ับและนาไปปฏิบต ั ิ
3
2.
ทรรศนะของบุคคลเเต
กต่าง กันอย่างไร
ทรรศนะของบุคคลเเตกต่าง กัน
อย่างไร
ประกอบด้วย 2 สาเหตุหลัก
1. คุณสมบัตต
ิ ามธรรมชาติของมนุ ษย ์
=> คุณสมบัตท ี่ ดตัวมาตังเเต่
ิ ติ ้ เกิด เช่น การมีไหวพริบ หรือ ความถนัด
ความเชือ่
ในแต่ละบุคคลมีความเชือที่ เเตกต่
่ ้
างกันไป ขึนอยู ่กบั การศึกษาอบรมจากครอบครัว
่
หรือสิงเเวดล ่
้อม ผลทีตามมาจึ งทาให ้แต่ละบุคคลมีเเนวความคิดทีต่ ่ างกันออกไป
่ ความเชือที
เมือมี ่ เเตกต่
่ างกัน การแสดงทรรศนะก็ยอ ่ มเเตกต่างกัน โดยความเชือ่
ของเเต่ละบุคคลสามารถเปลียนได ่ ้
้ขึนอยู
่กบ
ั วัยเเละประสบการณ์
5
ทรรศนะของบุคคลเเตกต่าง กันอย่างไร
่
2.อิทธิพลของสิงเเวดล ้อม
=>ทาให ้บุคคลมีความรู ้หรือประสบการณ์ ความเชือ่
้ านิ ยมทีแตกต่
รวมทังค่ ่ างกันไป
ค่านิ ยม
ค่านิ ยมเป็ นตัวกาหนดพฤติกรรมของเเต่ละบุคคล ค่านิ ยมมี
อิทธิพล ต่อการเเสดงทรรศนะของเเต่ละบุคคล ในบางครง้ั
่
อิทธิพลของค่านิ ยมสามารถเปลียนให ้บุคคลไม่สามารถเเสดง
ทรรศนะออกมาได ้ ค่านิ ยมเกิดได ้จากการอบรม และการได ้เห็น
่
ตัวอย่างเพือมาคิ ดและพิจารณาด ้วยตนเอง 6
ผลทีท่ าให้มท
ี รรศนะที่
ต่างกัน
ความรู ้เเละประสบการณ์
ประสบกาณ์หาได ้จากการ อ่าน ฟัง
และสังเกตุมาด ้วยตนเอง ประสบการณ์จะสะสม
ต่อเนื่ องกันมาจนเกิดเป็ นความแตกต่างทาง
ทรรศนะของเเต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ขนอยูึ้ ่กบั
ประสบการณ์ทเเต่ ี่ ละคนสังสมกั
่ นมา ซึง่ 7
3.
ประเภทของทรรศนะ
ประเภทของทรรศนะ
ทรรศนะเชิงข้อเท็จจริง ทรรศนะเชิงคุณค่า ทรรศนะเชิงนโยบาย
- ่ เกิ
กล่าวถึงเรืองที ่ ดเเล ้วเเต่ยงั เป็ น - ่
ประเมินว่าสิงใดดี ่
สิงใดด ่
้อย สิงใด - บ่งบอกว่าควรทาอะไร อย่างไร
่ ยั
เรืองที ่ งถกเถียวกันอยู่ ว่า เป็ นประโยชน์หรือโทษ หรือเเก ้ไขอะไร
ข ้อเท็จจริงคืออะไร - ประเมินโดยเปรียบเทียบกับ สิงที ่ ่ - นโยบายมีหลายระดับตังเเต่ ้
- เป็ นการสันนิ ษฐาน อยูใ่ นประเภทเดียวกัน บุคคลถึงชาติ
- ่ อขึนอยู
ความน่ าเชือถื ้ ก
่ บ
ั เหตุ - ่
สิงของเป็ น วัตถุ บุคคล กิจกรรม - ่ จะท
ต ้องบอกให ้ชัดเจนว่าสิงที ่ า
- ผลของผูเ้ เสดงทรรศนะ โครงการ หรือ วิธ ี ้ั
มีขนตอนอะไร เเก ้ปัญหา
อย่างไร มีเป้ าหมายอะไร
9
4.
ลักษณะของ
่ ้
ภาษาทีใช
่ ้
ลักษณะของภาษาทีใช
= มีความสาคัญและมีลก ั ษณะเฉพาะ
= หากใช ้ไม่ถก
ู ต ้องแล ้วอาจจะทาให ้ผู ้ฟังร ับสารผิด ไม่สามารถ
แยกแยะได ้ว่าผูพ ่ งทรรศนะของตน
้ ูดจะสือถึ
หลักการใช ้ภาษา
=> ใช ้ถ ้อยคากะทัดร ัด มีความหมายช ัดเจน
=> เรียบเรียงลาดับให ้ถูกต ้อง ไม่วกวน ไม่ทาให ้ผูฟั
้ งสับสน
่
=> ใช ้ภาษาถูกต ้องกับระดับของการสือสาร
(ระดับภาษา <= สถานการณ์ และ บุคคล)
11
โดยมีลก
ั ษณะเฉพาะเช่น
ตัวอย่าง
ดิฉันเห็นว่า, พวกเรามีความเห็น
ร่วมกันว่า, ข ้าพเจ ้าเข ้าใจว่า,
1. ใช ้คา/กลุม
่ คา แสดงความเป็ น
ผมขอสรุปว่า,
เจ ้าของ เราขอเสนอแนะว่า
= อาจเป็ นคานาม คาสรรพนาม ประกอบกับ
คากริยา หรือ กลุ่มคากริยา
12
ตัวอย่าง
โดยมีลก
ั ษณะเฉพาะเช่น
่ น่้ าจะส่งต่อให ้…
เรืองนี
2. ใช ้คา/กลุม ่ ้
่ คากริยาช่วยเพือชี คณะนักเรียนคงจะเข ้าใจผิด
ให ้เห็นว่าเป็ นการแสดงทรรศนะ ่
เกียวกั
บ….
= เช่น “น่ า” “น่ าจะ” “คง” “ควรจะต ้อง” โรงเรียนควรจะต ้องคานึ งถึง….
13
โดยมีลก
ั ษณะเฉพาะเช่น
ตัวอย่าง
นักกีฬาของเรามีทางชนะ
อย่างไม่ต ้องสงสัย
3. ใช ้คา/กลุม ่
่ คาอืนๆที
สื่ อ่ ่ ่น
= แสดงความเชือมั
ความหมายในการแสดงทรรศนะ ่
เป็ นไปได ้ยากมากทีเราจะ
่ น
่
= อาจเป็ นการประเมินค่า/แสดงความเชือมั สามารถจับได ้เลขเดิมหลาย
/คาดคะเน ฯลฯ ครงติ้ั กต่อกัน
= แสดงการคาดคะเน
14
ไม่ยด
ึ ตัวบุคคลเป็ นสาคัญ
ทรรศนะควรเป็ นอย่างไร ่ื ยง
ผูท้ รงคุณวุฒิ หรือมีชอเสี
มากเพียงใด
15
ประโยชน์และลักษณะสร ้างสรรค ์
ประโยชน์ สร ้างสรรค ์
16
่ อและความสมเหตุผล
ความน่ าเชือถื
้ั
่ จะต ้องมีทงความน่
ทรรศนะทีดี ่ อและเหตุผล ข ้อสนับสนุ นทรรศนะจะต ้องมี
าเชือถื
้
นาหนั กมากพอ และน่ ายอมร ับซึง่ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทคือ
2. การให ้เหตุผลแบบอุปนัย
การให้เหตุผลแบบอุปนัย เป็ นวิธก
ี ารสรุปผลมาจากการค ้นหาความจริงจากการสังเกตหรือ
การทดลอง แล ้วนามาสรุปเป็ นความรู ้แบบทัวไป่ ่ี ามาอ ้างเพียงพอ
ต ้องประเมินว่ากรณี ทน
หรือไม่ ตัวอย่างถูกต ้องตามความจริงหรือไม่
17
ตัวอย่างการให ้เหตุผลแบบนิ รนัย
ผล สมชายแต่งกายถูกระเบียบ
ตัวอย่างการให ้เหตุผลแบบอุปนัย
18
่
ถ ้าอ ้างถึงผูท้ รงคุณวุฒิ ต ้องประเมิณว่าอ ้างได ้อย่างไม่คลาดเคลือนหรื
อไม่ เพียงพอแก่
กรณี หรือไม่
่ี ามาเทียบว่าสอดคล ้องกันหรือไม่
ถ ้าใช ้แนวเทียบ ต ้องพิจรณากรณี ทน
่ นความสัมพันธ ์ระหว่างสาเหตุกบ
ถ ้าใช ้เหตุผลทีเป็ ั ผลลัพธ ์ ต ้องพิจารณาว่าเป็ นจริงและ
เป็ นไปได ้เพียงใด มีอะไรทีจะท ่
่ าให ้ข ้อสรุปคลาดเคลือนไปได ้หรือไม่
19
ความเหมาะสมกับผูร้ ับสารและกาสเทศะ
ทรรศนะใดก็ตามจะต ้องนาเสนอแก่บุคคล หรือ ประชาชนกลุ่มใด
กลุ่มหนึ ง ในโอกาสใดโอกาสหนึ่ ง ผ่านสือใดสื
่ ่
อหนึ ่ ง ซึงบางทรรศนะ
่
สามารถ นาเสนอให ้แก่สาธารณะชนทัวไปได่ ้ แต่บางทรรศนะก็ไม่สมควร ในการ
ประเมินค่าทรรศนะ จะต ้องพิจรณาว่าสามารถทีจะน ่ าเสนอได ้
อย่างเหมาะสมแก่ประชาชนหรือไม่ ถูกต ้องกับกาลเทสะหรือไม่ และ
ทรรศนะทีน ่ ามาเสนอนั้นต ้องมีความพอดี ไม่มากเกินไป เหมาะสมกับ
้ และเวลาที
เนื อที ่ ่ อยู่ เหมาะแก่สมรรถภาพ การร ับสารของผู ้ร ับหรือไม่
มี
20
ความเหมาะสมกับผูร้ ับสารและกาสเทศะ
ตัวอย่างทรรศนะทีไม่่ เหมาะสมแก่การนาเสนอต่อสาธารณชน
✗ ทรรศนะทีเกี ่ ยวข
่ ้องกับความมั่นคงของประเทศชาติ
้
✗ อธิบายคือ เนื อหาบางประการควรมี ่
ไว ้เพือเสนอแก่
ผูร้ ับผิดชอบโดยตรง เท่านั้น
่ าเสนอต่อบุคคลทัวไป
ไม่ควรทีจะน ่ เพราะอาจทาให ้ผูท้ ไม่่ี ประสงค ์ดี นาไปใช ้
่ ยหาย ก่อเกิดอันตรายต่อประเทศชาติได ้
ในทางทีเสี
21
การใช ้ภาษาในการแสดงทรรศนะ
ในการประเมินทรรศนะต่างๆ จาเป็ นต ้องประเมิน
การใช ้ภาษาด ้วยว่า มีความช ัดเจน แม่นตรงตาม
่
ต ้องการ และมีความเหมาะสมแก่ระดับการสือสาร
หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน มากไปกว่านั้น ในการประเมิน
่ ละเอี
ค่าทรรศนะเป็ นเรืองที ่ ่
ยดอ่อน ซึงจะรีบสรุปไม่ได ้ จาเป็ นต ้อง
อาศัยเวลา และข ้อมูลหลายๆด ้านประกอบกัน
22
่ งเสริมการแสดงทรรศนะ
ปัจจัยทีส่
ปัจจัยแบ่งออกเป็ น ๒ ประการ
23
6.
การประเมินค่า
ทรรศนะ
การประเมินค่าทรรศนะควรเป็ นอย่างไร
การประเมินค่าทรรศนะของบุคคลใดก็ตาม ไม่ควรยึดตัวบุคคลเป็ นสาคัญ แม้ผูเ้ ป็ นเจ ้าของทรรศนะนั้น
จะเป็ นผูท้ รงคุณวุฒิ หรือเป็ นผูม้ ช ่ื ยงมากเพียงใด เพราะมนุ ษย ์ไม่สามารถเสนอสิงที
ี อเสี ่ ถู่ กต ้องเสมอไป
ในทุกโอกาส
๑. ประโยชน์และลักษณะสร ้างสรรค ์
25
การประเมินค่าทรรศนะควรเป็ นอย่างไร
่ อ และความสมเหตุสมผล
๒. ความน่ าเชือถื
๓. ความเหมาะสมกับผู ร้ ับสารและกาลเทศะ
26