Professional Documents
Culture Documents
อำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
อำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แพทย์ประจำตำบล
สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้ องที่
• รัฐธรรมนูญเป็ นกฎหมายสูงสุ ดที่ใช้ในการปกครองประเทศ แบ่งอำนาจ
ออกเป็ น ๓ อำนาจ คือ
- อำนาจนิติบญั ญัติ คือ รัฐสภา ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ประกอบด้วย
ส.ส. ส.ว.
- อำนาจบริ หาร คือ รัฐบาลหรื อคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่ในการ
บริ หารประเทศ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี อีกไม่เกิน 3
5 คน รัฐมนตรี อีกไม่เกิน 35 คน
- อำนาจตุลาการ คือ อำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลต่าง
ฝ่ ายบริ หาร
• พ.ร.บ.ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน เป็ นกฎหมายที่วางหลักในการ
บริ หารราชการของประเทศ โดยแบ่งออกเป็ น ๓ ส่ วน คือ
๑. ราชการบริ หารส่ วนกลาง
๒. ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาค
๓. ราชการบริ หารส่ วนท้องถิ่น
ราชการบริ หารส่ วนกลาง
• ประกอบด้ วย
- สำนักนายกรัฐมนตรี
- กระทรวง ปัจจุบัน มี ๒๐ กระทรวง
- ทบวง
- กรม หรือส่ วนราชการทีเ่ รียกชื่ออย่ างอืน่ และมีฐานะเป็ นก
รม ซึ่งสั งกัดหรือไม่ สังกัดสำนักนายก กระทรวง ทบวง กรม
ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาค
- คือ การแบ่ งอำนาจของราชการส่ วนกลาง กระทรวง
ทบวง กรมต่ าง ๆ ไปให้ ส่วนภูมภิ าคเพือ่ สนองความ
ต้ องการของประชาชนในเขตการปกครอง นั้น ๆ แต่ มใิ ช่
การกระจายอำนาจ
- เจ้ าหน้ าทีส่ ่ วนภูมภิ าคอยู่ใต้ การบังคับบัญชาของส่ วน
กลาง
- ราชการบริหารส่ วนภูมภิ าคได้ รับมอบอำนาจวินิจฉัย
สั่ งการเฉพาะบางเรื่อง บางประการเท่ านั้น
การปกครองส่ วนภูมิภาค
• ประกอบด้ วย
- หมู่บ้าน
- ตำบล
- อำเภอ
มาตรา ๙ ในหมู่บ้านหนึ่งให้ มผี ู้ใหญ่ บ้านคนหนึ่ง
และมีผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครอง หมู่บ้านละสอง
คน เว้ นแต่ หมู่บ้านใดมีความจำเป็ นต้ องมีมากกว่ า
สองคน ให้ ขออนุมตั กิ ระทรวงมหาดไทย
ในหมู่บ้านใด ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นสมควร
ให้ มผี ู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบ ก็ให้ มไี ด้
ตามจำนวนทีก่ ระทรวงมหาดไทยจะเห็นสมควร
ผู้ใหญ่ บ้านจะได้ รับเงินเดือน แต่ มใิ ช่ จากเงิน
งบประมาณประเภทเงินเดือน ส่ วนผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน
ฝ่ ายรักษาความสงบและ ผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ าย
มาตรา ๑๐ ผู้ใหญ่ บ้านมีอำนาจหน้ าทีป่ กครอง
บรรดาราษฎรทีอ่ ยู่ในเขตหมู่บ้าน
มาตรา ๑๑ ราษฎรผูม้ ีสิทธิเลือกผูใ้ หญ่บา้ นต้องมี
คุณสมบัติและไม่มีลกั ษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(๑) มีสญ
ั ชาติไทยและมีอายุไม่ต ่ำกว่าสิ บแปด
ปี บริ บูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคม ของปี ที่มีการเลือก
(๒) ไม่เป็ นภิกษุ สามเณร นักพรต หรื อ
นักบวช
(๓) ไม่เป็ นคนวิกลจริ ต หรื อจิตฟั่นเฟื อนไม่
สมประกอบ
(๔) มีภูมิลำเนาหรื อถิ่นที่ประจำ และมีชื่อใน
ทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียน
มาตรา ๑๒ ผู้ทจี่ ะได้ รับเลือกเป็ นผู้ใหญ่ บ้านต้ องมีคุณสมบัตแิ ละ
ไม่ มลี กั ษณะต้ องห้ ามดังต่ อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
(๒) อายุไม่ ต่ำกว่ ายีส่ ิ บห้ าปี บริบูรณ์ ในวันรับเลือก
(๓) มีภูมลำ ิ เนาหรือถิน่ ทีอ่ ยู่เป็ นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้ าน
ตามกฎหมายว่ าด้ วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านนั้นติดต่ อกัน
มาแล้วไม่ น้อยกว่ าสองปี จนถึงวันเลือกและเป็ นผู้ทปี่ ระกอบอาชีพ
เป็ นหลักฐาน
(๔) เป็ นผู้เลือ่ มในในการปกครองตามรัฐธรรมนูญด้ วยความ
บริสุทธิ์ใจ
(๕) ไม่ เป็ นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(๖) ไม่เป็ นผูม้ ีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถ
ปฏิบตั ิหน้าที่ได้วกิ ลจริ ตจิตฟั่นเฟื อน ไม่สมประกอบ
ติดยาเสพติดให้โทษ หรื อเป็ นโรคตามที่รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนดในราชกิจ
จานุเบกษา
(๗) ไม่เป็ นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น
หรื อผูบ้ ริ หารท้องถิ่น ข้าราชการการเมือง ข้าราชการ
ประจำ พนักงาน เจ้าหน้าที่หรื อลูกจ้างของหน่วยงาน
ของรัฐ หรื อของรัฐวิสาหกิจ หรื อขององค์กร
ปกครองส่ วนท้องถิ่น หรื อลูกจ้างของส่ วนราชการ
หรื อลูกจ้างของเอกชนซึ่งมีหน้าที่ ทำงานประจำ
(๘) ไม่ เป็ นผู้มอี ทิ ธิพลหรือเสี ยชื่อในทางพาลหรือทางทุจริต
หรือเสื่ อมเสี ยในทางศีลธรรม
(๙) ไม่ เป็ นผู้เคยถูกให้ ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ
หน่ วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ เพราะ
ทุจริตต่ อหน้ าที่ และยังไม่ พ้นกำหนดเวลาสิ บปี นับแต่ วนั ถูกให้ ออก
ปลดออก หรือไล่ ออก
(๑๐) ไม่ เป็ นผู้เคยต้ องจำคุกโดยคำพิพากษาถึงทีส่ ุ ด เว้ นแต่ เป็ น
โทษสำหรับความผิดทีก่ ระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ และยัง
ไม่ พ้นกำหนดเวลาสิ บปี นับแต่ วนั พ้นโทษ
(๑๑) ไม่ เป็ นผู้เคยต้ องคำพิพากษาถึงทีส่ ุ ดว่ ากระทำผิดเกีย่ วกับ
กฎหมายว่ าด้ วยป่ าไม้ กฎหมายว่ าด้ วยป่ าสงวนแห่ งชาติ กฎหมายว่ าด้ วย
การสงวนและคุ้มครองสั ตว์ ป่า กฎหมายว่ าด้ วยอุทยานแห่ งชาติ กฎหมาย
ว่ าด้ วยศุลกากร กฎหมายว่ าด้ วยอาวุธปื น เครื่องกระสุ นปื น วัตถุระเบิด
ดอกไม้ เพลิง และสิ่ งเทียมอาวุธปื น ในฐานความผิดเกีย่ วกับอาวุธปื น
เครื่องกระสุ นปื น หรือวัตถุระเบิดทีน่ ายทะเบียนไม่ อาจออกใบอนุญาตให้
ได้ กฎหมายว่ าด้ วยทีด่ นิ ในฐานความผิดเกีย่ วกับที่สาธารณประโยชน์
กฎหมายว่ าด้ วยยาเสพติด กฎหมายว่ าด้ วยการเลือกตั้ง และกฎหมายว่ าด้ วย
การพนัน ในฐานความผิดเป็ นเจ้ ามือหรือเจ้ าสำนัก
(๑๒) ไม่ เป็ นผู้เคยถูกให้ ออกจากตำแหน่ งตามมาตรา ๑๔ (๖)
หรือ (๗) และยังไม่ พ้นกำหนดเวลาสิ บปี นับแต่ วนั ทีถ่ ูกให้ ออก
(๑๓) ไม่ เป็ นผู้เคยถูกลงโทษให้ ออก ปลดออก หรือไล่ ออก
จากตำแหน่ งกำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน แพทย์ ประจำตำบล หรือผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน
ตามกฎหมายว่ าด้ วยระเบียบข้ าราชกรพลเรือน และยังไม่ พ้นกำหนด
เวลาสิ บปี นับแต่ วนั ถูกให้ ออก ปลดออก หรือไล่ออก
(๑๔) มีพนื้ ความรู้ ไม่ ต่ำกว่ าการศึกษาภาคบังคับ หรือทีก่ ระทรวง
ศึกษาธิการเทียบไม่ ต่ำกว่ าการศึกษาภาคบังคับ เว้ นแต่ ในท้ องทีใ่ ดไม่ อาจ
เลือกผู้มพี นื้ ความรู้ ดงั กล่ าวได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยอนุมตั ริ ัฐมนตรี
ว่ าการกระทรวงมหาดไทย อาจประกาศในราชกิจจานุเบกษายกเว้ นหรือ
ผ่ อนผันได้
(๑๕) ไม่ เป็ นผู้อยู่ในระหว่ างเสี ยสิ ทธิในกรณีทไี่ ม่ ไปใช้ สิทธิ
เลือกตั้งหรือถูกเพิกถอนสิ ทธิเลือกตั้ง
มาตรา ๑๔ ผู้ใหญ่ บ้านต้ องพ้นจากตำแหน่ งด้ วยเหตุใดเหตุหนึ่ง
ดังต่ อไปนี้
(๑) มีอายุครบหกสิ บปี
(๒) ขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา ๑๒
เว้ นแต่ ในกรณีทไี่ ด้ รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้ ลาอุปสมบทหรือ
บรรพชาตามประเพณี มิให้ ถอื ว่ ามีลกั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา ๑๒ (๕)
(๓) ตาย
(๔) ได้ รับอนุญาตจากนายอำเภอให้ ลาออก
(๕) หมู่บ้านทีป่ กครองถูกยุบ
(๖) เมือ่ ราษฎรผู้มคี ุณสมบัตแิ ละไม่ มลี กั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา
๑๑ ในหมู่บ้านนั้นจำนวนไม่ น้อยกว่ ากึง่ หนึ่งของราษฎรผู้มคี ุณสมบัตแิ ละ
ไม่ มลี กั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา ๑๑ ทั้งหมด เข้ าชื่อกันขอให้ ออกจาก
ตำแหน่ ง ในกรณีเช่ นนีใ้ ห้ นายอำเภอสั่ งให้ พ้นจากตำแหน่ ง
(๗) ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่ งให้ พ้นจากตำแหน่ ง เมือ่ ได้ รับรายงาน
การสอบสวนของนายอำเภอว่ าบกพร่ องในหน้ าที่ หรือประพฤติไม่
เหมาะสมกับตำแหน่ ง
(๘) ไปเสี ยจากหมู่บ้านทีต่ นปกครองติดต่ อกันเกินสามเดือน
เว้ นแต่ เมือ่ มีเหตุอนั สมควรและได้ รับอนุญาตจากนายอำเภอ
(๙) ขาดการประชุมประจำเดือนของกำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน
ทีน่ ายอำเภอเรียกประชุมสามครั้งติดต่ อกันโดยไม่ มเี หตุอนั ควร
(๑๐) ถูกปลดออกหรือไล่ออกจากตำแหน่ ง เนื่องจากกระทำผิด
วินัยร้ ายแรง
(๑๑) ไม่ ผ่านการประเมินผลการปฏิบัตหิ น้ าที่ ซึ่งต้ องทำอย่ างน้ อย
ทุกห้ าปี นับแต่ วนั ทีไ่ ด้ รับการแต่ งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ
ทีก่ ระทรวงมหาดไทยกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ในกรณีทผี่ ้ ูใหญ่ บ้านพ้นจากตำแหน่ งตาม (๘) ให้ รายงาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบโดยเร็วด้ วย
มาตรา ๑๕ ผู้ใหญ่ บ้านและกำนันท้ องทีร่ ่ วมกันพิจารณาคัดเลือก
ราษฎรซึ่งมีคุณสมบัตติ ามมาตรา ๑๖ เป็ นผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครอง
และผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบ
มาตรา ๑๖ ผู้มสี ิ ทธิจะได้ รับเลือกเป็ นผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ าย
ปกครอง หรือผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบ ต้ องมีคุณสมบัตแิ ละ
ไม่ มลี กั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา ๑๒
มาตรา ๑๘ ผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครองและผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน
ฝ่ ายรักษาความสงบอยู่ในตำแหน่ งคราวละห้ าปี
นอกจากออกจากตำแหน่ งตามวาระ ผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครอง
และผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบต้ องออกจากตำแหน่ งเพราะ
ขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ ามตามมาตรา ๑๒ หรือเพราะเหตุ
เช่ นเดียวกับทีผ่ ้ ูใหญ่ บ้านต้ องออกจากตำแหน่ งตามมาตรา ๑๔ (๒) ถึง (๗)
ถ้ าตำแหน่ งผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครองหรือผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ าย
รักษาความสงบว่ างลงให้ มกี ารคัดเลือกผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายปกครองหรือ
ผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบแทน และให้ นำความในความใน
มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๗ มาใช้ บังคับโดยอนุโลม
ผู้ซึ่งได้ รับคัดเลือกตามวรรคสามอยู่ในตำแหน่ งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน
เมือ่ ผู้ใหญ่ ต้องออกจากตำแหน่ งไม่ ว่าด้ วยเหตุใด ให้ ผ้ ูช่วยผู้ใหญ่
บ้ านฝ่ ายปกครองและผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านฝ่ ายรักษาความสงบต้ องออกจาก
ตำแหน่ งด้ ย
มาตรา ๒๗ ผู้ใหญ่ บ้านทำหน้ าทีช่ ่ วยเหลือนาย
อำเภอในการปฏิบัตหิ น้ าทีแ่ ละเป็ นหัวหน้ าราษฎรใน
หมู่บ้านของตน และมีอำนาจหน้ าทีด่ งั ต่ อไปนีด้ ้ วย
(๑) อำนวยความเป็ นธรรมและดูแลรักษาความสงบเรียบร้ อย
และความปลอดภัยแก่ ราษฎรในหมู่บ้าน
(๓) ประสานหรืออำนวยความสะดวกแก่ราษฎรในหมู่บ้านใน
การติดต่ อหรือรับบริการกับส่ วนราชการ หน่ วยงานของรัฐ องค์ กร
ปกครองส่ วนท้ องถิน่
(๔) รับฟังปัญหาและนำความเดือดร้ อน ทุกข์ สุขและความต้ องการที่
จำเป็ นของราษฎรในหมู่บ้าน แจ้ งต่ อส่ วนราชการ หน่ วยงานของรัฐ องค์ กร
ปกครองส่ วนท้ องถิน่ หรือองค์ กรอืน่ ทีเ่ กีย่ วข้ อง เพือ่ ให้ ช่วยแก้ ไขหรือช่ วยเหลือ
การรายงานต่ อทางราชการและการบริการ
กิจการสาธารณะประโยชน์
• ปกครองราษฎรในเขตหมู่บ้าน
• เป็ นหัวหน้ าราษฎรในหมู่บ้าน
• อำนวยความเป็ นธรรมและรักษาความสงบเรียบร้ อยในหมู่บ้าน
• สร้ างความสมานฉันท์ และความสามัคคีในหมู่บ้าน
• กระทำตนเป็ นตัวอย่ างของราษฎร
การรายงานต่ อทางราชการและการบริการ
• จัดประชุมราษฎรและคณะกรรมการ
หมู่บ้านอย่ างน้ อยเดือนละ ๑ ครั้ง
• อบรมหรือชี้แจงราษฎรให้ มคี วามรู้ ความ
เข้ าใจในข้ อราชการ กฎหมาย หรือระเบียบ
แบบแผนของทางราชการ
• ให้ การสนับสนุน ส่ งเสริม และอำนวยความ
ในการปฏิบัตหิ น้ าทีห่ รือการให้ บริการของ
ส่ วนราชการ
กิจการสาธารณประโยชน์
• แจ้ งให้ ราษฎรช่ วยเหลือในกิจการสาธารณประโยชน์ เพือ่ บำบัดปัดป้อง
ภยันตรายสาธารณะทีม่ มี าโดยฉุกเฉิน รวมตลอดทั้งการช่ วยเหลือ
บรรเทาทุกข์ แก่ ผ้ ูประสบภัย
• ร่ วมมือและช่ วยเหลือนายอำเภอและองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ในการ
ดูและรักษาป้ องกันทีด่ นิ อันเป็ นสาธารณสมบัตขิ องแผ่ นดิน
• ในเวลาวันนักขัตฤกษ์ กำนันจะเรียกผู้ใหญ่ บ้าน แพทย์ ประจำตำบลมา
ช่ วยรักษาความเรียบร้ อยในทีน่ ้ัน
การทีเ่ กีย่ วกับคดีอาญา
ประมวล การเช่า
การรับราชการ การป้องกันภัย กฎหมาย
กฎหมาย ที่ดินเพื่อ
ทหาร ฝ่ ายพลเรือน ป่ าไม้
อาญาและวิ อาญา เกษตรกรรม
กฎหมาย การสงวนและ
กฎหมายว่าด้วย ระเบียบ ภาษี
ป่ าสงวน คุม้ ครอง
ชลประทาน ว่าด้วยการใช้น ้ำ บำรุงท้องที่
แห่งชาติ สัตว์ป่า
กฎหมายว่าด้วย
โรคติดต่อ
ผักตบชวา
หน้หน้
าที่ตาามกฎหมายว่
ที่ตามกฎหมายว่
าด้วายทะเบี
ด้วยทะเบี
ยนราษฎร
ยนราษฎร
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวประชาชน
• แจ้งให้ราษฎรผูม้ ีสญ
ั ชาติไทยที่มีอายุครบ ๑๕ ปี บริ บูรณ์ ไปยืน่ คำขอมีบตั ร
• เป็ นเจ้าพนักงานตรวจบัตร
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว
• ผูใ้ หญ่บา้ นมีหน้าที่ในฐานะพยานการจดทะเบียน
• กำนันรับจดทะเบียน
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนสัตว์พาหนะ
• สำรวจและจัดทำบัญชีสตั ว์ประจำคอก ซึ่งยังไม่ได้ทำตัว๋ รู ปพรรณ (แบบ ส.พ. ๑๘) ส่ ง
นายทะเบียนเป็ นประจำทุกเดือน
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปื นฯ
• อาจเป็ นผูใ้ ห้การรับรองความประพฤติและหลักฐานของผูข้ ออนุญาตมีและใช้อาวุธปื น
• เป็ นผูกำ
้ กับ ดูแล ควบคุมตรวจตราการมีและใช้อาวุธปื นภายในตำบลหมู่บา้ น
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
• ในเดือนกันยายน ของทุกปี ต้องนำประกาศของนายอำเภอแจ้งชายไทยที่มีอายุ
ย่างเข้า ๑๘ ปี ไปลงบัญชีทหารกองเกิน
• ในเดือนตุลาคม ของทุกปี ต้องนำประกาศของนายอำเภอแจ้งชายไทยที่มีอายุยา่ ง
เข้า ๒๑ปี ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรี ยก
• ประมาณเดือนเมษายนนำราษฎรไปแสดงตนเพื่อคัดเลือกทหาร
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน
• เป็ นเจ้าพนักงานป้ องกันภัย ตาม พ.ร.บ. ป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน พ.ศ.
๒๕๒๒
• เป็ นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา (มาตรา ๔๓)
• มีอำนาจเข้าจัดการใด ๆ และสัง่ ให้บุคคลใด ๆ เข้าช่วยเหลือเท่าที่จำเป็ น เพื่อขจัด
หน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา
• เป็ นเจ้าพนักงานฝ่ ายปกครอง
• เมื่อผูใ้ หญ่บา้ นทราบข่าวการกระทำผิดกฎหมายในหมู่บา้ น ต้องแจ้งความต่อกำนัน หรื อเมื่อตรวจ
พบของกลาง ให้นำส่ งกำนัน
• มีอำนาจหน้าที่จบั กุมผูก้ ระทำผิด หรื อจัดการให้เป็ นไปตามหมายจับ
• เมื่อกระทำการตามอำนาจหน้าที่ ผูใ้ ดดูหมิ่นหรื อต่อสู้ขดั ขวาง ย่อมมีความผิด
หน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
• มีอำนาจหน้าที่รักษาความสงบเรี ยบร้อยภายในเขตที่รับผิดชอบ
• เป็ น “พนักงานฝ่ ายปกครองหรื อตำรวจ” ตาม ป. วิ อาญา มีอำนาจหน้าที่ในเขตท้องที่ของตน ดังนี้
- สื บสวนคดีอาญา
- จับกุมผูก้ ระทำความผิดอาญา
- มีอำนาจค้น
- มีอำนาจหน้าที่จดั การให้เป็ นไปตามหมายอาญา
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
• เป็ นคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบล (คชก.ตำบล) มีอำนาจหน้าที่กำหนด
อัตราค่าเช่าชั้นสู งของแต่ละท้องที่ และพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับการเรี ยกเก็บค่าเช่า
• เป็ นอนุกรรมการส่ วนอำเภอ (อชก.ส่ วนอำเภอ) ช่วยเหลือเกษตรกรและผูย้ ากจน
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่ าไม้
• เป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ป่ าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔
• มีอำนาจหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ าและการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.
ป่ าไม้ ในเขตท้องที่รับผิดชอบ ดังนี้
- การทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต (ไม้หวงห้ามมี ๒๐๐ ประเภท)
- การเก็บหรื อทำอันตรายของป่ าหวงห้าม
- การแปรรู ปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรื อมีไม้แปรรู ปไว้ในครอบครอง
- การเคลื่อนย้ายไม้เรื อนเก่าโดยไม่ถูกต้อง
- การบุกรุ กทำลายป่ า
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่ าสงวนแห่งชาติ
• เป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗
• มีอำนาจหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ าในเขตป่ าสงวนแห่งชาติ
• มีอำนาจสัง่ ให้ผใู ้ ดออกจากเขตป่ าสงวนแห่งชาติหรื องดเว้นการกระทำใด ๆ ในเขตปาสงวนแห่ง
ชาติ
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุม้ ครองสัตว์ป่า
• เป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุม้ ครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕
• มีอำนาจหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายนี้ รวมทั้งตรวจสอบการอนุญาต
ต่าง ๆ ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ ดังนี้
- ห้ามมิให้ผใู ้ ดล่าสัตว์ป่าสงวน ครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรื อซากสัตว์ป่าสงวน
- ห้ามมิให้ผใู ้ ดล่าสัตว์ป่าคุม้ ครอง ครอบครองสัตว์ป่าคุม้ ครองเกินกำหนด หรื อค้าสัตว์ป่าคุม้ ครอง
- ห้ามมิให้ผใู ้ ดค้า หรื อมีซากสัตว์ป่าคุม้ ครองชนิดที่ กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยชลประทานราษฎร์
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
• หากพบโรคติดต่อเกิดขึ้นในตำบล หมู่บา้ น ต้องรี บแจ้งให้ทางราชการทราบ เพื่อป้ องกันมิให้โรค
ระบาดลุกลามต่อไป
หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการกำจัดผักตบชวา
• เป็ นเจ้าพนักงานผูป้ กครองท้องที่ มีหน้าที่เรี ยกระดมราษฎรช่วยกันกำจัดผักตบชวา โดยให้ถือว่า
เป็ นสาธารณประโยชน์อย่างหนึ่ง
สำนักบริหารการปกครองท้ องที่
ส่ วนบริหารงานกำนันผูผ้ ใู หญ่ บ้าน
โทร. ๐-๒๖๒๙-๘๓๐๖-๑๕ ต่อ ๔๐๔
ขอบคุณครับ
การจัดระเบียบการปกครองของไทย
- จะเป็ นรู ปแบบใดขึ้นอยูก่ บั สภาพการณ์ ปัจจัยต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ
เช่น สถานการณ์การเมือง อิทธิพลของชาติตะวันตก ขีดความสามารถ
ของพลเมือง
- ชนชาติไทยมีการรวมตัวกันเป็ นปึ กแผ่นมาตัง่ แต่สมัยน่านเจ้า แต่เริ่ มมี
การบันทึกเป็ นหลักฐานในสมัยสุ โขทัย(สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช)
ประมาณ พ.ศ.๑๘๐๐
วิวฒั นาการรู ปแบบการปกครองของไทย
• แบ่งออกเป็ น ๔ ยุค ดังนี้
- สมัยสุ โขทัย
- สมัยอยุธยา
- สมัยกรุ งธนบุรี
- สมัยรัตนโกสิ นทร์ (ปัจจุบนั )
สมัยสุ โขทัย
• เป็ นลักษณะพ่อปกครองลูก หากราษฎรผูอ้ ยูใ่ ต้ปกครองได้รับความเดือด
ร้อนก็จะร้องทุกข์ต่อพ่อขุนราคำแหงมหาราช โดยวิธีการสัน่ กระดิ่ง พระ
มหากษัตริ ยก์ จ็ ะดำเนินการไต่สวนแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กบั
ราษฎรซึ่ งเปรี ยบเสมือนลูก
• ประดิษฐ์อกั ษรไทยขึ้นใช้เป็ นครั้งแรก
สมัยอยุธยา
- เมื่อสุ โขทัยเสื่ อมอำนาจลง ชนชาติไทยได้มีการสถาปนาราชธานีแห่ง
ใหม่ ในปี พ.ศ.๑๘๙๓ คือ กรุ งศรี อยุธยา
- ลักษณะการปกครองได้เปลี่ยนแปลงไปตามคติพราหมณ์
- การจัดการปกครองในส่ วนกลางแบ่งออกเป็ น ๔ กรม เรี ยกว่า จตุสดมภ์ แต่ละ
กรมมีเสนาบดีเป็ นผูป้ กครองบังคับบัญชา คือ
๑. เวียง รับผิดชอบปกครองท้องที่ ดูแลทุกข์สุขของประชาชนและรักษา
ความสงบเรี ยบร้อย
๒. วัง รับผิดชอบเกี่ยวกับราชสำนัก
๓. คลัง รับผิดชอบจัดเก็บรายได้ เงินผลประโยชน์ของแผ่นดิน
๔. นา รับผิดชอบเกี่ยวกับไร่ นา เตรี ยมเสบียงเพื่อการสงคราม
- ต่อมาสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ประมาณ ๑๙๙๑ได้มีการปรับปรุ งลักษณะการปกครองโดย
แยกกิจการฝ่ ายทหารออกจากฝ่ ายพลเรื อน และได้กำหนดให้มีตำแหน่งอัครเสนาบดีข้ ึน ๒ ตำแหน่ง
- ต่อมาสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ประมาณ ๑๙๙๑ได้มีการปรับปรุ ง
ลักษณะการปกครองโดยแยกกิจการฝ่ ายทหารออกจากฝ่ ายพลเรื อน
และได้กำหนดให้มีตำแหน่งอัครเสนาบดีเพิ่มขึ้น ๒ ตำแหน่ง คือ
๑. สมุหกลาโหม ทำหน้าที่บงั คับบัญชากิจการฝ่ ายทหารทั้งปวง
๒. สมุหนายก ทำหน้าที่บงั คับบัญชาสตุสดมภ์และกิจการฝ่ าย
พลเรื อนทั้งปวง
การปกครองอาณาเขต
- มีการขยายราชธานี กว้วงออกไปโดยรอบกำหนดเมืองที่อยูใ่ นราชธานี เป็ น
เมืองจัตวา อยูใ่ นอำนาจของเจ้ากระทรวงต่าง ๆ ที่อยูใ่ นราชธานี
- หัวเมืองชั้นนอกราชธานีออกไป จัดเป็ นเมือง เอก โท ตรี ตามขนาดและความสำคัญ
ของเมือง พระเจ้าแผ่นดินจะตั้งพระราชวงศ์หรื อข้าราชการชั้นสูงไปปกครอง
- หัวเมืองที่ห่างออกไปซึงต่างชาติต่างภาษาให้เป็ นเมืองประเทศราชมีเจ้านายของ
ชนชาติน้ นั ปกครองตามจารี ตประเพณี ของชนชาติน้ นั
- การปกครองท้องที่ในเมืองหนึ่งนั้น เริ่ มตัง่ แต่ บ้าน หลายบ้านรวมกันมี ผูใ้ หญ่บา้ น
เป็ นผูป้ กครอง
- หลาย ๆ หมู่บา้ นรวมกันเป็ นตำบล มีกำนันเป็ นผูป้ กครอง กำนันเกิด
ขึ้นเป็ นครั้งแรก
- หลาย ๆ ตำบลรวมกันเป็ นแขวง มีหมื่นแขวงเป็ นผูป้ กครอง
- วิธีการปกครองระหว่าง พุทธสักราช ๑๙๙๑ – ๒๐๗๒ ในสมัย
อยุธยาได้ใช้เป็ นหลักสื บมา จนถึงรัตนโกสิ นทร์จะแก้ไขบ้างก็เป็ นเพียง
ส่ วนย่อยหลักใหญ่ยงั คงใช้มาจนถึงปัจจุบนั
สมัยกรุ งธนบุรี
- หลังจากเสี ยกรุ งให้พม่าสมเด็จพระเจ้าตากสิ นมหาราชก็ได้สถาปนา
ราชธานีแห่งใหม่ข้ ึนมา คือ กรุ งธนบุรี
- พุทธศักราช ๒๔๓๕ สมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีพระบรมราชโองการให้ต้ งั
กระทรวงแบบใหม่สำหรับการปกครองส่ วนกลางโดยจัดสรรอำนาจ
หน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงให้เป็ นสัดส่ วน
- การปกครองอาณาเขตกำหนดให้อยูใ่ นความรับผิดชอบของกระทรวง
มหาดไทย โดยมอบหมายให้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชา นุภาพเป็ น
องค์ปฐมเสนาบดี ดำเนินการจัดรู ปแบบการปกครองในส่ วนภูมิภาคที่
เรี ยกว่า เทศาภิบาล
- แบ่งหัวเมืองออกเป็ น มณฑล เมือง และอำเภอ มีสมุหเทศาภิบาลผู ้
ว่าการเมืองและนายอำเภอเป็ นผูป้ กครอง
สมัยรัตนโกสิ นทร์ (ปัจจุบนั )
• รัฐธรรมนูญเป็ นกฎหมายสูงสุ ดที่ใช้ในการปกครองประเทศ แบ่งอำนาจ
ออกเป็ น ๓ อำนาจ คือ
- อำนาจนิติบญั ญัติ คือ รัฐสภา ทำหน้าที่ออกกฎหมาย
- อำนาจบริ หาร คือ รัฐบาล
- อำนาจตุลาการ คือ อำนาในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลต่าง
ฝ่ ายบริ หาร
• มี พ.ร.บ.ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน เป็ นกฎหมายที่วางหลักในการ
บริ หารราชการของประเทศ โดยแบ่งออกเป็ น ๓ ส่ วน คือ
๑. ราชการบริ หารส่ วนกลาง
๒. ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาค
๓. ราชการบริ หารส่ วนท้องถิ่น
ราชการบริ หารส่ วนกลาง
• ประกอบด้วย
- สำนักนายกรัฐมนตรี
- กระทรวง ปั จจุบนั มี ๒๐ กระทรวง
- ทบวง
- กรม หรื อส่ วนราชการที่เรี ยกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็ นกรม ซึ่ งสังกัด
หรื อไม่สงั กัดสำนักนายก กระทรวง ทบวง กรม
ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาค
- คือ การแบ่งอำนาจของราชการส่ วนกลาง กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ
ไปให้ส่วนภูมิภาคเพื่อสนองความต้องการของประชาชนในเขตการ
ปกครอง นั้น ๆ แต่มิใช่การกระจายอำนาจ
- เจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคอยูใ่ ต้การบังคับบัญชาของส่ วนกลาง
- ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาคได้รับมอบอำนาจวินิจฉัยสัง่ การเฉพาะบาง
เรื่ อง บางประการเท่านั้น
- ราชการบริ หารส่ วนภูมิภาค ประกอบด้วย
๑. จังหวัด
๒. อำเภอ
- จังหวัด ประกอบด้วย
๑. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด
๒. รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด
๓. ผูช้ ่วยผูว้ า่ ราชการจังหวัด (ปัจจุบนั ยังไม่มีการแต่งตั้ง)
๔. ปลัดจังหวัด
๕. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด
• ๖. หัวหน้าส่ วนราชการประจำจังหวัด
• ๗. คณะกรมการจังหวัด ประกอบด้วย
- ผูว้ า่ ราชการจังหวัด
- รองผูว้ า่ ราชการจังหวัดคนหนึ่งตามที่ผวู ้ า่ ราชการจังหวัดมอบหมาย
- ปลัดจังหวัด
- อัยการจังหวัด
- ผูบ้ งั คับการตำรวจภูธรจังหวัด
- หัวหน้าส่ านราชการประจำจังหวัดจากกระทรวง หรื อทบวงละ ๑ คน ยกเว้น
กระทรวงมหาดไทย
อำเภอ
- ไม่มีฐานะเป็ นนิติบุคคล
- หลาย ๆ ตำบลรวมกันเป็ นอำเภอ
- ประกอบด้วย นายอำเภอ ปลัดอำเภอ หัวหน้าส่ วนราชการประจำ
อำเภอ
- กำนัน ผูใ้ หญ่บา้ น เป็ นผูช้ ่วยเหลือนายอำเภอตามมาตรา ๒๗ และ
มาตรา ๓๔ ทวิ
ราชการบริ หารส่ วนท้องถิ่น
- กระจายอำนาจ
- ประกอบด้วย
๑. กรุ งเทพฯ
๒. เมืองพัทยา
๓. เทศบาล
๓.๑ เทศบาลนคร
๓.๒ เทศบาลเมือง
๓.๓ เทศบาลตำบล
๔. องค์การบริ หารส่ วนจังหวัด
๕. องค์การบริ หารส่ วนตำบล อยูใ่ นการกำกับดูแลของนายอำเภอ
รู ปแบบการปกครองท้องที่
• ประกอบด้วย
- หมู่บา้ น
- ตำบล
- อำเภอ