Download as pptx, pdf, or txt
Download as pptx, pdf, or txt
You are on page 1of 19

วงปี่ พาทย์ไม้แข็ง

วงปี่ พาทย์ไม ้แข็ง

่ งจากไม ้ทีใ่ ชตี้ ระ


สำหรับวงปี่ พาทย์ ทีร่ ะบุคำว่า “ไม ้แข็ง” เนือ
นาดเอกจะใชไม ้ ้แข็งบรรเลง วงปี่ พาทย์ไม ้แข็งทีใ่ ช บรรเลง
้ ดังนี้
- ปี่ ใน - ฉาบเล็ก
- ระนาดเอก - ฆ ้องวงเล็ก
- ฆ ้องวงใหญ่ - ระนาดทุ ้ม
- ตะโพน - โหม่ง
- กลองทัด - กรับ
- ฉิง่ - ปี่ นอก
แผนผังของวงปี่ พาทย์ไม ้แข็ง
วงปี่ พาทย์เครือ
่ งห ้า

วงปี่ พาทย์เครือ ่ งห ้า แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด


ได ้แก่
• ปี พาทย์เครือ ้
่ งห ้าอย่างหนัก จะใชสำหรั บ
การบรรเลงในการแสดงมหรสพหรืองาน
ในพิธต ี า่ ง ๆ ซงึ่ จะประกอบไปด ้วยเครือ ่ ง
ดนตรีตา่ ง ๆ ดังนีค ้ อ
ื ฆ ้องวงใหญ่ ปี่ ใน
กลองทัด ตะโพน และฉิง่
• ปี พาทย์เครือ ่ งห ้าอย่างเบา ประกอบไป
ด ้วยเครือ ่ งดนตรีตา่ ง ๆ ดังนี้ คือ กลอง
ชาตรี ฆ ้องคู่ ฉิง่ ปี่ และทับหรือโทน
วงปี่ พาทย์เครือ
่ งคู่

วงปี่ พาทย์เครือ
่ งคู่ เหมือนวงปี่ พาทย์เครือ
่ งห ้า เพียงแต่
เพิม
่ ระนาดทุ ้มและฆ ้องวงเล็กเข ้าไป
วงปี่ พาทย์เครือ
่ งใหญ่

วงปี่ พาทย์เครือ
่ งใหญ่ เหมือนวงปี่ พาทย์เครือ
่ งคู่ เพียง
แต่เพิม
่ ระนาดเอกเหล็กและระนาดทุ ้มเหล็กเข ้าไป
หน ้าทีข
่ องปี่ ใน
• ปี่ ใน เป็ นปี่ ทมี่ ขี นาดใหญ่และมีเสย ี งต่ำ ในบรรดา
เครือ ่ งเป่ าทีม
่ ล ี นิ้ ตระกูลปี่ ใน
• เลาปี่ ทำมาจากไม ้ เชน ่ ไม ้พยุง ไม ้ชงิ ชนั
• มีลก ั ษณะหัวบานท ้ายและป่ องตรงกลาง เจาะรู
กลางตลอดเลา ด ้านบนมีรเู ล็กใชเส ้ ย
ี บลิน
้ ปี่ ด ้าน
ล่างรูจะใหญ่
• ผสมอยูใ่ นวงปี่ พาทย์มาแต่โบราณ ทีเ่ รียกว่า " ปี่
ใน " ก็เพราะว่า ปี่ ชนิดนี้ เทียบเสย ี งตรงกับระดับ
เสย ี งทีเ่ รียกว่า " เสย ี งใน " ซงึ่ เป็ นระดับเสย ี งทีว่ ง
ปี่ พาทย์ไม ้แข็ง บรรเลงเป็ นพืน ้ ฐาน
หน ้าทีข
่ องระนาดเอก
• ระนาดเอกเป็ นเครือ ่ งตีชนิดหนึง่ ทีว่ วิ ฒ
ั นาการมาจาก
กรับ
• เป็ นเครือ่ งดนตรีทเี่ ป็ นมงคลในบ ้าน ทำหน ้าทีเ่ ป็ นผู ้นำ
วง
• สว่ นประกอบของระนาดเอก มี 3 สว่ น ได ้แก่ ผืน ราง
และไม ้ตี
1. ผืน ประกอบด ้วยลูกระนาด ซงึ่ ทำด ้วย ไม ้ชงิ ชน ั
2. ราง เป็ นสว่ นทีเ่ ป็ นกล่องเสย ี งของระนาด นิยมทำด ้วย

ไม ้สก และทาด ้วยน้ำมันขัดเงา
3. ไม ้ระนาด เป็ นสว่ นทีเ่ กีย ่ วข ้องกับการให ้เกิดเสย ี ง
โดยตรง มี 2 ชนิด คือ ไม ้แข็ง และไม ้นวม
หน ้าทีข
่ องฆ ้องวงใหญ่
• ฆ ้องวงใหญ่เป็ นเครือ่ งดนตรีทวี่ วิ ฒ
ั นาการ
มาจากฆ ้องรางของอินโดนีเซย ี
• ฆ ้องวงใหญ่เป็ นเครือ ่ งดนตรีทสำ ี่ คัญทีส
่ ด

เพราะคนทีจ ่ ะเล่นดนตรีในวงปี่ พาทย์ต ้องมา
เรียนฆ ้องวงใหญ่กอ ่ น ฆ ้องวงใหญ่ทำหน ้าที่
เดินทำนองหลัก ซงึ่ ถือเป็ นแม่บทของเพลง
• สว่ นประกอบของฆ ้องวงใหญ่ประกอบด ้วย
ลูกฆ ้องและวงฆ ้อง ลูกฆ ้องมี 16 ลูกทำจาก
ทองเหลือง วงฆ ้องสูงประมาณ 24

เซนติเมตร ใชหวายโป่ งทำเป็ นราง
หน ้าทีข
่ องตะโพน
• เป็ นเครือ
่ งดนตรีทข ี่ งึ ด ้วยหนัง ตัวตะโพนทำ
ด ้วยไม ้สกั หรือไม ้ขนุน
• ตะโพนนี้ ถือเป็ นบรมครูทางดุรย ิ างคศลิ ป์
นับว่าพระประโคนธรรพ

• ใชสำหรั บประกอบจังหวะผสมอยูใ่ นวงปี่
พาทย์ ทำหน ้าทีกำ ่ กับจังหวะหน ้าทับต่าง ๆ
• ตะโพนนัน ้ เป็ นกลองทีพ ่ ระคเณศได ้เป็ นผู ้ตี
เป็ นคนแรก ดังนัน ้ ตะโพนเมือ ่ นำมาร่วม
บรรเลงในวงปี่ พาทย์ จึงถือเป็ นบรมครู และ
ทำหน ้าทีกำ ่ กับหน ้าทับต่างๆทัง้ หมด
หน ้าทีข
่ องกลองทัด
• กลองทัด เป็ นกลองสองหน ้าขนาดใหญ่ ขึน ้ หน ้า
ทัง้ สองข ้างด ้วยหนังวัวหรือหนังควาย ตรึงด ้วย
หมุด
• กลองทัดมีขนาดหน ้ากว ้างเท่ากันทัง้ สองข ้าง
วัดเสนผ่้ าศูนย์กลางได ้ประมาณ 46 ซม. ตัวกลอง
ยาวประมาณ 41 ซม. กลองทัดมี 2 ลูก
• ลูกทีม ี งสูง ดัง ตุม เรียกว่า ตัวผู ้ และ ลูกทีม
่ เี สย ่ ี
เสย ี งต่ำตีดงั ต ้อม เรียกว่า ตัวเมีย

• กลองทัดใชบรรเลงในวงปี ่ พาทย์ โดยเล่นคูก ่ บ

ตะโพน
หน ้าทีข
่ องฉิง่
• เป็ นเครือ
่ งดนตรีไทยประเภทตี ทำ
ด ้วยทองเหลือง
• ฉิง่ สำหรับวงปี่ พาทย์มข
ี นาดทีว่ ด

ผ่านศูนย์กลาง จากขอบข ้างหนึง่
ไปสุดขอบอีกข ้างหนึง่ กว ้าง
ประมาณ 6 – 6.5 ซม
• ทำหน ้าทีกำ่ กับความชาเร็้ ว จังหวะ
เบา หนักในการบรรเลง
หน ้าทีข
่ องฉาบเล็ก

• มีหน ้าทีต ่ ห
ี ยอกล ้อยัว่ เย ้าไปกับฉิง่
หรือให ้สอดคล ้องกับทำนองเพลง
• เป็ นเครือ่ งตีททำ
ี่ ด ้วยโลหะ รูปร่าง
คล ้ายฉิง่ แต่หล่อบางกว่าฉิง่ มีขนาด
ใหญ่กว่าและกว ้างกว่า
• มีขนาดเสนผ่ ้ านศูนย์กลางประมาณ
๑๒-๑๔ ซม.
• เวลาตีใชเป็ ้ นคู่ ตีกระทบกันให ้เกิด
เสย ี งตามจังหวะ
หน ้าทีข
่ องฆ ้องวงเล็ก

• ฆ ้องวงเล็กเป็ นเครือ ่ งดนตรีไทย


สร ้างในสมัยรัชกาลพระบาท
สมเด็จพระนั่งเกล ้าเจ ้าอยูห ่ วั
• มีลกั ษณะเหมือนกับฆ ้องวง
ใหญ่ แต่ลก ู ฆ ้องมีขนาดเล็กกว่า
มีลก ู ฆ ้อง 18 ลูก
• บรรเลงทำนองรองคล ้ายระนาด
เอก แต่ตเี ก็บถีก ่ ว่าระนาดเอก
หน ้าทีข
่ องระนาดทุ ้ม
• เป็ นเครือ ่ งดนตรีทสี่ ร ้างขึน
้ มาในสมัยรัชกาลพระบาท
สมเด็จ พระนั่งเกล ้าเจ ้าอยูห ่ วั เป็ นการสร ้างเลียน
แบบระนาดเอก
• ใชไม ้ ้ชนิดเดียวกันกับระนาดเอก ลูกระนาดทุ ้มมี
จำนวน 17 ลูก ลูกต ้นยาวประมาณ 42 ซม กว ้าง 6 ซม
• หน ้าทีใ่ นวงของระนาดทุ ้มนัน ้ ทำหน ้าทีเ่ ดินทำนอง
รอง ในทางของตนเองซงึ่ จะมีจังหวะโยน ล ้อ ขัด ที่
ทำให ้เกิดความไพเราะสนุกสนานและเติมเต็มชอ ่ ง
ว่างของเสย ี ง
• สว่ นมากในการเดีย ่ วเครือ ่ งดนตรีระนาดทุ ้ม นิยมเล่น
คูก่ บ
ั ฆ ้องวงเล็กและฉาบเสย ี มากกว่า
หน ้าทีข
่ องโหม่ง
• ใชตี้ ประกอบจังหวะ โหม่ง คือ
ฆ ้องคู่ เสยี งต่างกันทีเ่ สย
ี งแหลม
เรียกว่า "เสย ี งโหม่ง" ทีเ่ สย
ี งทุ ้ม
เรียกว่า"เสย ี งหมุง่ "
• นิยมตีหา่ งๆ คือสองฉิง่ สอง ฉั บ
ต่อการตีโหม่งครัง้ หนึง่
• หน ้าทีป ่ ระกอบจังหวะ
หน ้าทีข
่ องกรับ
• กรับ ทำด ้วยไม ้หรือโลหะ
• ใชมื้ อหนึง่ ถือกรับ แล ้วตีกรับลง
ไปบนอีกมือหนึง่ ทีร่ องรับ ทำให ้
เกิดเสยี งกระทบจากแผ่นไม ้
หรือแผ่นโลหะดัง
• มีหน ้าทีใ่ นการเล่นประกอบ
จังหวะ
โอกาศทีบ
่ รรเลง


ใชบรรเลงในงานพระราชพิ ธ ี งานพิธก
ี รรมของราษฎร
่ งานทำบุญขึน
เชน ้ บ ้านใหม่ งานบวชนาค งานเทศกาลบุญ

รวมทัง้ ใชประกอบการแสดงต่ างๆ ปั จจุบนั ยังนิยมนำมา
บรรเลง - ขับร ้องบทเพลงต่างๆ เพือ ่ การฟั งด ้วย
ขอจบการนำเสนอเพียงเท่านี้คะ่

You might also like