Download as ppt, pdf, or txt
Download as ppt, pdf, or txt
You are on page 1of 55

เพลงขอทาน

เพลงขอทาน เป็ น
เพลงที่วณิพก ใช้ร้อง
แลกสิ่งของหรือเงิน
ประวัติเพลง
ขอทาน
เพลงขอทานเป็ น
เพลงเก่า
ไม่ทราบประวัติ
แน่นอน
หนังสือ วชิรญาณวิเศษ
เล่ม ๔
พ.ศ. ๒๔๓๒
“เรื่องขับร้อง” หน้า
๒๒๖
“เพลงร้องขอทาน
เรียกว่า เพลงกระบอก
คือ มีกระบอก ๒ กระบอก
กระทุ้งเป็ นจังหวะ บางที
ไม่ใช้กระบอกก็ใช้โทน ฉิ่ง
กรับอีก ๒ อย่าง”
ลักษณะของ
เพลง
เพลงที่มีจังหวะเร็ว
เนื้อหาของเพลงเป็ น
ลักษณะการเล่าเรื่อง
ชาดก หรือเรื่องจักร ๆ
วงศ์ ๆ
วิธีเล่น
เริ่มต้นร้องเพลงเกริ่นเพื่อขอให้คน
ฟั งเมตตาสงสาร แล้วเริ่มเรื่องต่อไป
การร้องเพลงขอทานมีคนเดียว หรือ
หลายคนก็ได้ มีเครื่องดนตรี
ประกอบด้วยเช่น โทน ฉิ่ง กรับ ขลุ่ย
ฉาบ ฆ้อง ฯลฯ วณิพกทำหน้าที่นัก
ดนตรีควบคู่กับการร้องเพลงได้ เช่น
มือตีฉิ่ง ตัวตีฉาบ ร้องสลับเครื่องตีไป
เรื่อย ๆ
ตัวอย่างเพลง
เพลงขอทาน
พ่อไสว
ไสว (พูด-พ่อคุณแม่คุณ ทำบุญทำทานนะแม่นะ เห็น
แก่คนยากคนจน อุตส่าห์มาขอพ่อแม่นี่ก็ยากจน)
เอ่อเออ เออ เอ๊ย...เออ เอ่อ เอ๊อ เอย...
สิบนิว้ มาประนมบรมโรจน์ ลูกมาจนเข็ญใจ จึงได้โปรด
โปรดเสียเถิดในวัน เอ่อ เออ เอ๋ยนี ้ เอ๋อเออ เออ เอ่อเอ๊อ
เออเอย
ลูกมาจนเข็ญใจ เอ๋อเออเอิงเออ เอิ๋งเออ เอ่อเอย จึงได้
โปรด
ลูกมาจนเข็ญใจจึงได้โปรด โปรดเสียเถิดในวัน
เอ่อ เออเอยนี ้ เอ๋อเออ เออเอ๋อ เอย
ถ้าลูกไม่จนกันเสียเต็มเจียน ลูกไม่มาเบียดเบียนคุณป้ าและ
น้า
แม่อย่าเบื่ออย่าบ่นว่าคนจนมาเบียน ว่าจนจริงจึงได้เพียร
เอ่อ เออ เอ๋ยมา เอ๋อเออ เออเอย
(แม่อย่าเบื่ออย่าบ่น เอ๋อเออเอิงเอย เอ๋อเออเออเอ่อเอย)
คนจนมาเบียน หนอแม่อย่าเบื่ออย่าบ่นว่าคนจนมาเบียน ว่า
จนจริงจึงได้เพียรเออเอยมา เอ๋อเออ เออเอย
เปรียบเหมือนลูกไก่ไอ้ที่พลัดแม่ นี่มันร้องเซ็งแซ่ตามใต้ถุน
ถ้ามีบาทสองบาทนึกว่าทำบุญ ไปเสียเลยแม่คุณเออเอ๋ยดี
เอิ่งเออ เออเอ่อเอ๊อเออเอย
(ถ้ามีบาทสองบาท เอ๋อเออเอิ๊งเออ เอ๊อเออเอ่อเออเอ่อ เอย ก็
นึกว่าทำบุญ)
ว่ามีบาทสองบาทนึกว่าทำบุญ ไปเสียเลยแม่คุณเออเอ๋ยดี
เอ๋อเออ เออเอ่อเอ๊อเอย
เขาว่าทำบุญมันไม่สูญมันไม่เปล่า เปรียบเหมือนหนึ่ง
หว่านข้าวกันลงไว้
นี่จะต้องมียวงพวงระย้า งอกงามขึน
้ มากันโดยไว
แม่เกสรโกสุมประทุมเมศ แม่จะตัดกิเลสลูกอย่างไร
ถ้าท่านไม่โปรดลูกคงเป็ นเปรต ต้องทนทุกข์ทุเรศในแรมไพร
ให้โปรดเปรตเมตตาลูกยาไว้ ไปเสียเลยในวันเอ่อ เออเอ๋ยนี ้
เอ๋อเออ เออเอย ให้โปรดเปรตเมตตา เอ๋อเออเอิงเออ เอ๋อเออ
เอ่อเอย เอ่อเอย
ลูกยาไว้ ให้โปรดเปรตเมตตาลูกยาไว้ ไปเสียเลยในวันเอ่อ เออ
เอ๋ยนี ้ เอ๋อเออ เออ เอ่อเอ๊อเอย
(พูด-พ่อคุณแม่คุณทำบุญทำทานนะ ต่อไปนี ้
เจ้านายอยากจะฟั งเพลงขอทานเรื่อง พระยาฑัท
ทันต์ (ฉัททันต์) เกล้ากระผมจะร้อง)
เอ่อเออเอ่อเอย... ลูกจะสรร
บั่นเรื่อง
นี่ได้เป็ นแบบเบื้องแต่ก่อนมา มีองค์
พญาทัดทัน
ยามถนอมเมียขวัญอยู่ในกลางป่ า...
เพลงอีแซว
เพลงอีแซวเป็ นเพลง
พื้นเมืองของจังหวัด
สุพรรณบุรี
นิยมเล่นทั่วไปในแถบ
ภาคกลาง
ประวัติเพลงอี
แซว
เพลงอีแซวเป็ นเพลง
เก่า
ไม่ทราบประวัติ
แน่นอน
ลักษณะของ
เพลง
เพลงร้องโต้ตอบกัน
จังหวะเร็ว ลูกคู่ร้องรับ
เอกลักษณ์ของเพลง
“ซะแล้ว” หรือ “แล้ว”
ตัวอย่างเพลง
เพลงอีแซว
พ่อไสว แม่บุญมา
แม่บัวผัน
ไสว
พูด-แม่ผันแม่บุญมา (จ๋า) อยากจะชวนแม่สองคนนีไ้ ปเที่ยวชมป่ า
กันไหมล่ะ
ก็ดีเหมือนกันไปซิจ้ะ ดีเหมือนกัน นานๆ ได้มาไม่เคยเข้าป่ า ฉันเอง
ก็ไม่ได้เคยไปมานานแล้ว
หันหวนชวนแม่ผันเลยกับแม่บุญมาเอย (เอิงเอยแม่บุญมามาซิ
ว่าไปชมป่ าให้รีบไป
นี่ฉันเดินขึน้ หน้าแกก็มาตามหลังเอย (เอิงเอย มาตามหลัง)
ต้นไม้หลายอย่างมีทงั ้ ต้นเล็กต้นใหญ่
โน่นแน่ประดู่คู่โลกต้นโศกไม้สัก ดูเสลาต้นรักแลดูสูงวิไล
ดูสูงปลอดยอดโปร่ง พู่ระหงดอกหอมเอย (เอิงเอยแล้วดอกหอม)
แมลงภู่ตามตอมไม่กลัวตัวจะตาย
หนอแมลงภู่ก็คลึงแมลงวันก็เคล้า
เหมือนอย่างพี่รักเจ้าแม่ช่ น
ื ใจ
บอกว่าน้องชมบ้างบอกว่าพี่ชมบ้างเอย (เอย
แล้วชมบ้าง)
ชมสู่กันฟั งเอ๋ยไม่เป็ นไร (เอ่อเออ
เอยไม่เป็ นไร)
บุญมา ฟั งเอ๋ยเมื่อได้ฟังสนองเอย (เอ่อเอยฟั งสนอง)
เสียงมาบอกกะน้องพ่อหนุ่มเมืองไหน
เอ้าข้างน้องชมบ้าง ข้างพี่ชมบ้าง มะมาชมสู่กันฟั ง
ไม่เป็ นไร
อีโน่นจำปี อีนี่จำปาโน่นแน่ะการะเกด
ดอกพิกุลบุญหญ้าเทศทัง้ กระถินหนอไม้ไทย
ต้นกะทุ่มกะถินมีทงั ้ กินราเอิงเอย (เอิงเอยแล้วยะ
รา)
อีกทัง้ หมู่ไม้ในป่ าเอ๋ยแล้วมากมาย (เอ่อเออเอยแล้ว
มากมาย)
ไสว หมู่ไม้ก็ในป่ ามีกันมากมาย...
ชมไม้คราวนีเ้ ลยขอยก จะชวนแม่มาชมนกอยู่ตาม
เนินป่ าใน
โน่นแน่ะนกยูงทองเที่ยวได้ย่องเหยาะ ลำแพน
จำเพาะอยู่ตามหว่างไผ่
มีทงั ้ นกอีโก้งสาลิกา สร้อยอิหล้าบินล่อง
ล้วนเรียงเคียงสองไปเหมือนอย่างคนปราศรัย
บอกว่าแกก็ชม บอกว่าฉันก็ชม บอกว่านกมีถม
น้องเห็นไหม
ให้น้องแม่ชใี ้ ห้พี่นช
ี ้ มเอย (เอยเอิงเอยแล้วพี่ชม)
ว่านกไม้มีถมเอ๋ยแล้วเถไป (เอ่อเออเอยแล้วเถไป)
บุญมา นกไม้มีถมเถไป...
อีโน่นประดู่ปรูปรงโลดทะนงอินทนิน
ต้นกระทุ่มกระถินถัดไปโน่น
เชียวนะไม้ไทย
โน่นนกยูงจับยาง นกยูงพี่ฉันเอ๋ยจับยางเหมือน
อย่างนางมีคู่ (เอิง
เอย เอยนางมีค)ู่
มันบินอยู่เป็ นหมู่แล้วเห็นไหม (เอิ๋งเอย
แล้วเห็นไหม)
บัวผัน มันบินเป็ นหมู่เชียวนะเห็นไหม...
บอกวิสัยพาหญิงเชียวนะชมนก นี่มันเข้าในรก
เชียวนะชมไม้
ยังงัน
้ จะมีเนื้อความถามไสวพี่ น้องก็ยังสงซีเ้ ชียว
นะสงสัย
บอกว่านกอะไรกันเล่าขาพี่
มันคาบหินบินรี่เขาเรียกว่านกอะไร
พ่อแก้มขวาเป็ นไผ่วานบอกกะฉัน (เอิงเอยแล้ว
กะฉัน)
วานบอกกะแม่ผันเอ๋ยมาไวๆ (เอิ๋งเอยเออแม่ผัน
เอ๋ยแล้วไวๆ)
ไสว
ถ้าไม่กลัวน้องโกรธจะกระโดดเข้าไปอุ้มเอย (เอิงเอย
เข้าไปอุ้ม)
เอ็งจะทุบสักตูมก็ยอมตาย
พี่จะเล่าก็ละลอก นี่จะบอกกันให้เห็น ให้มันเด็ด
กะเด็นบอกเอ็งก็ได้
ที่คาบหินแล้วหนอบินรี่ นี่ให้ฟังคำพี่ไปเลยแม่ผ่อง
อำไพ
พี่จะเล่าละลอกบอกเจ้าแม่งามชื่นเอย (เอย แม่
งามชื่น)
เขาเรียกว่านกปื นเอ๋ยแม่ช่ น
ื ใจ (เอ่อเออเอย แม่
ชื่นใจ)
บัวผัน เอ๋ยนกปื นเชียวนะแม่ช่ นื ใจ...
แหมเป็ นหญิงเสียได้ ถ้าแม้นเป็ นชายนั่นเหนอเอิงเออ

(เอิงเอ๋อชายนั่นเหนอ)
จะลงนิว ้ เป็ นเกลอกันเข้าไว้
จะลงนิว ้ เป็ นเกลอฉันกลัวจะเสียน้ำเกลือ เพราะยังไม่
เห็นน้ำเนื้อหัวใจ
ว่าเข้าป่ าชมนก วิสัยเข้ารกเราต้องชมไม้
นั่นต้นเต็งเป็ นแถว ต้นแต้วเป็ นทิว กาหลงสูงลิ่วมีอยู่
เรียงราย
ก็โน่นแน่ะเสือยืนลายโน่นแน่ะควายยืนขวางเอิงเอย
(เอิงเอยแล้วยืนขวาง)
เขามันเขวะเคว้งคว้างนั่นแน่ะเจ้าเปรียวพ่อควาย
เสือโฮกควายหันเสือกระชัน ้ ควายชิดเอิงเอย (เอยแล้ว
ควายชิด)ไอ้เสือโฮกควายขวิดกันแลดูหวิดเสือวาย
(เอ่อเออเอยแล้วเสือไว)

ไสว เสือโฮกควายหวิดขวิดเอาเสือวาย...
โน่นหมาในไล่เนื้อมันหนีเสือลงหนอง ชีน
้ วิ ้ บอกกน้อง
โน่นแน่ะหมาใน
เสียงว่าเสือโฮกแล้วก็ควายขวิด มองดูหวิดๆ เลยก็
ไวๆๆ
ก็แต่พอเสือโฮกควายมันก็ขวิดเอย (เออเอยแล้วก็ขวิด)
ถ้าเขายาวอีกนิดขวิดเสือตาย (เอ่อเออเอย แล้วเสือตาย)
บุญมา
เขายาวอีกนิดขวิดเอาเสือ เอาเสือตาย...
บอกว่าเสือกะควายก็รึมันไล่เอ๋ยขวิดเอิงเออ
(เอิงเอยแล้วไล่ขวิด)มันขวิดก้นหวิดๆ พ่อคุณ
เอ๋ยหนอไวๆ...
เพลงลำตัด
ลำตัดเป็ นเพลงที่
นิยมแพร่หลายใน
ภาคกลาง
ประวัติเพลง
ลำตัด
ระเบียบตำนาน
ละคร
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชา
นุภาพ ทรงกล่าวไว้ว่าเมื่อ พ.ศ.
๒๔๒๓ นักสวดเพลงแขกเข้าจังหวะ
รำมะนาได้เข้าไปสวดถวายตัวครัง้
แรกในการบำเพ็ญพระราชกุศล
เหตุการณ์นอี ้ ยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๕
เรียกว่า สวดดิเก
ต่อจากนัน ้ พวกเชื้อแขกใน
กรุงเทพฯ ได้คิดสวดดิเกแผลงเป็ น
ลำนำต่าง ๆ จนกลายเป็ นการเล่นเข้า
เรื่องเข้าราวอย่างละคร เรียกว่า ลิเก
และการแผลงดิเกอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะ
กลายมาเป็ น “ลำตัด” คือ แทนที่จะ
เล่นเป็ นเรื่องก็มาเล่นเป็ นบทเบ็ดเตล็ด
มีการร้อง “บันตน” คือร้องกลอนด้น
แก้กัน
ลักษณะของ
เพลง
เพลงที่ร้องโต้ตอบ
กัน
วิธีเล่น
เริ่มจากการโหมโรงรำมะนา
แต่ละฝ่ ายนั่งร้อง “เกริ่นหน้า
กลอง” จบแล้วจึงลุกขึน ้ ยืนไหว้ครู
และร้องฝากตัวกับผู้ชมโดยต่าง
ฝ่ ายต่างผลัดกันร้อง จากนัน ้ ก็เริ่ม
ร้องโต้ตอบกันก่อนจะจบการแสดง
ก็จะร้องลา ขออภัยซึ่งกันและกัน
และอวยพรเจ้าของงาน
ตัวอย่างเพลง
ลำตัด
สร้อย ชนไหนชนกัน เอิงเอยไม่ได้หวั่นเกรงกลัว
ชนไหนชนวาเอิงเอย วันนีไ้ ด้ ว่ากันนัว
ชาย 1. เธอก็ลำตัดฉันก็ลำตัดเคยจดประวัติ
กันเอาไว้
ชาย 2. ด้วยรู้เส้นเห็นไส้ภายในครอบครัว
ครอบครัวของเธอแหมเออฉันพอจะรู้
ว่าเดี๋ยวฉันจะบอกคุณหนูๆ ให้เขารู้กันให้ทั่ว
วันไหนไม่มีงานอยู่บ้านไม่ไปไหน
ชอบจับกลุ่มเล่นไพ่ชนิดที่ไม่ตีตั๋ว
ถ้าวันไหนมีลำตัดอีนัดแนะกันเป็ นนิจ
ชอบเล่นไพ่ญาติมิตรไอ้อย่างสะกิดกันจั่ว
วันนัน้ ผมไปหางานเข้าหลังบ้านลืมให้เสียง ฉันเดิน
หลบไปข้างระเบียง
เดินเลาะเลี่ยงไปข้างรัว

เดินย่องเบาๆแล้วแอบเข้าไปข้างหลัง
แม่ประยูรพูดเสียงดังว่าเขายังไม่ได้คั่ว
ผมเลยเอามือเคาะฝาทำท่าเป็ นเจ้าหน้าที่
พอเห็นกางเกงสีกากี อีโดดหนีจนลืมตัว (ลูกคู่รับ)
พอเห็นกางเกงสีกากีโดดหนีจรขากาง
ขึน
้ ข้างบนลงข้างล่างเผ่นหน้าต่างกันให้นัว
อ๋อ แต่แม่บุญปลูกคนนีว ้ ิ่งหนีไม่คิดชีวิต
รอดไปได้หวุดหวิดผ้านุ่งติดอยู่ข้างรัว ้
อ๋อ บางคนก็กลัวเต็มที่ บ้างวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ
แหมบางคนก็ตะกรุมตะกรามไปพยายามสระหัว
บ้างก็ขน
ึ้ ไปบนเตียง ไปนอนเรียงกันเป็ นตับ
แหม แม่ประยูรนี่เขาแกล้งทำนอนหลับเขาว่า
ตำรวจจับเขาไม่กลัว
อ๋อ วันนีแ ้ ม่หวังก็ตกเตียง นี่คอเหนียงแทบจะหัก
เปล่า
เราเดินตะกุกตะกัก เราไปตัง้ หลักอยู่ในครัว
แม่ประยูรอยู่บนเตียง นอนเรียงหลับตาปี๋
แกแกล้งทำกรนหลับตาฟี ้ กำเอี่ยวจี๊ไว้สองตัว
(ลูกคู่รับ)
หญิง 1. เอย.......ว่าแม่ประยูรนอนอยู่บนเตียง น่ะ
นอนเรียงหลับตาปี๋
หญิง 2. เขาหาว่าฉันแกล้งนอนกรนหลับตาฟี ้ ยัง
กำเอี่ยวจี๊ไว้สองตัว
แหม.......เขาว่าวันไหนหยุดเล่นลำตัด อีแนะนัดกัน
เป็ นนิจ
ชอบเล่นไพ่ญาติมิตร ไอ้อย่างสะกิดกันจั่ว
คุยว่าไปหลังบ้าน แหมไปหางานลืมให้เสียง
เขาเดินหลบไปทางระเบียง แล้วก็หลบเลี่ยงไปข้างรัว ้
เขาบอกว่าเดินไปเบาๆ แล้วแอบเข้าไปข้างหลัง
หาว่าแม่ประยูรบอกเสียงดัง หาว่าฉันยังไม่ได้คั่ว
แกเลยเอามือเคาะฝาแล้วทำท่าเป็ นเจ้าหน้าที่
ว่าฉันเห็นกางเกงสีกากี งีโ้ ดดหนีซะลืมตัว
หาว่าเรากลัวเต็มที่วิ่งหนีเข้าไปห้องน้ำ
เข้าไปตะกรุมตะกรามไปพยายามสระหัว
หาว่าแม่ประยูรนอนอยู่บนเตียง น่ะนอนเรียงอยู่
เมื่อตะกี ้
แกล้งนอนกรนหลับตาปี๋ แล้วกำเอี่ยวจี๊ไว้สองตัว
นายหวังก็หลบเข้าไปใต้เตียง ไปนอนเรียงห่มโสร่ง
แหม......หวังกำลังนอนโก้งโค้ง ยังกำไอ้โต้งไว้หนึ่ง
ตัว (ลูกคู่รับ)

You might also like