Download as ppt, pdf, or txt
Download as ppt, pdf, or txt
You are on page 1of 76

แรงดัน กระแส และ กำลังไฟฟ้ า ในระบบ 3 เฟส

Voltage Current and Power in 3 phase Power System

Piyadanai Pachanapan, 303327 Power System Engineering, EE&CPE, NU


เนื้อหา

• วงจรไฟฟ้ า 3 เฟสสมดุล (Balance 3 Phase Power Circuit)


• โหลดแบบ Y และ  (Y- Connected Load,  - Connected Load)
• การแปลงจากการต่อแบบ  เป็น Y (  - Y transformation)
• การวิเคราะห์วงจร 3 เฟส ในรูปวงจร 1 เฟส (Per Phase Analysis)
• กำลังไฟฟ้ าของระบบ 3 เฟส
ระบบไฟฟ้ า 3 เฟส (3 Phase Power System)

• ระบบผลิต, ระบบส่ง และ ระบบจำหน่าย  ระบบไฟฟ้ า 3 เฟส

• เกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้ าผลิตแรงดันไซน์ (Sinusoidal Voltage)


3 สัญญาณ ที่มีขนาดเท่ากัน และ มีมุมเฟสต่างกัน 120o (Balance
Source)
การผลิตระบบไฟฟ้ า 3 เฟส
3 phase Power Generation

Synchronous Machine

Ep
แรงดัน 3 เฟส - ขนาดเท่ากัน (Ep)
- มุมเฟสต่างกัน 120o
การเรียงลำดับเฟส

Positive phase Sequence Negative phase Sequence


ประโยชน์ของระบบไฟฟ้ า 3 เฟส

• ส่งจ่ายกำลังไฟฟ้ าไปที่โหลดได้คงที่กว่า ระบบไฟฟ้ า 1 เฟส


• ใช้สายไฟฟ้ าน้อยกว่า ระบบ 1 เฟส กรณีที่จ่ายกำลังไฟฟ้ าเท่ากัน
• สายไฟมีขนาดเล็ก เมื่อจ่ายที่ระดับแรงดันสูง (loss น้อย)

• เมื่อใช้จ่ายโหลดมอเตอร์ขนาดใหญ่ ไฟ 3 เฟส จะทำให้มีทอร์คคงที่


กว่า ใช้ไฟ 1 เฟสจ่าย (การสตาร์ท และ เดินเครื่อง ดีกว่าด้วย)
รูปแบบของระบบไฟฟ้ า 3 เฟส

• เครื่องกำเนิดไฟฟ้ า ต่อแบบ Y
• เครื่องกำเนิดไฟฟ้ าไม่นิยมต่อแบบ  เนื่องจาก
- ถ้าแรงดันไม่สมดุล จะมีกระแสไหลวนในขดลวด (วงจร)

• โหลดนิยมต่อแบบ Y และ 

- แบบ Y ต่อเข้าที่อยู่อาศัย สำนักงาน


- แบบ  ต่อเข้าเครื่องจักร
วงจรไฟฟ้ า 3 เฟสสมดุล
(Balance 3 Phase Power Circuit)
• แรงดันจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้ า
• แรงดันที่โหลดแต่ละประเภท (Y,  )
• กระแสที่ไหลในระบบ
• ความสัมพันธ์ของแรงดันเฟสและแรงดันระหว่างสาย
• ความสัมพันธ์ของกระแสเฟสและกระแสระหว่างสาย
วงจรระบบไฟฟ้ า 3 เฟส แบบสมดุล

สายนิวทรัล
แรงดันที่กำเนิดภายในเครื่องกำเนิดไฟฟ้ า (Generated Voltage)
E An  E p 0

EBn  E p   120
positive
ECn  E p   240

E An  E p 0

negative EBn  E p   240

ECn  E p   120
กำหนดให้
VAn ,VBn ,VCn - แรงดันที่ขั้วของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ า (Terminal Voltage)
Van ,Vbn ,Vcn - แรงดันเฟสที่ขั้วของโหลด (Phase Voltage at Load)

เมื่อพิจารณา เฟส A จะได้

ขั้ว Gen : VAn  E An  Z G I a

ขั้ว Load : Van  VAn  Z L I a

เฟส B, C คิดทำนองเดียวกัน
กรณีโหลดต่อแบบ Y (Y – Connected Loads)
• หาความสัมพันธ์ระหว่าง แรงดันระหว่างสาย (line Voltage, line to line
Voltage) กับ แรงดันเฟส (Phase Voltage, line to Neutral Voltage)
กำหนดแรงดันเฟส A ที่โหลดเป็นจุดอ้างอิง จะได้

Van  V p 0
Positive
Vbn  V p   120 phase
Vcn  V p   240 Sequence

เมื่อ Vp - ขนาดของแรงดันเฟส (line to Neutral Voltage)


แรงดันระหว่างสายที่ขั้วโหลดในรูปของ
แรงดันเฟส หาได้จาก KVL (Kirchhoff’s
Voltage Law)

Vab  Van  Vbn  V p 10  1  120   3 V p 30

Vbc  Vbn  Vcn  V p 1  120  1  240   3 V p   90

Vca  Vcn  Van  V p 1  240  10   3 V p   210


เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันเฟสและ
แรงดันระหว่างสาย ได้เป็น
กรณีโหลดต่อแบบ Y

แรงดันระหว่างสาย (RMS) : VL  3 V p 30

- แรงดันระหว่างสาย เป็น 3 เท่าของแรงดันเฟส


-กรณี positive phase sequence  แรงดันระหว่างสายมีมุม
เฟสนำหน้าแรง
ดันเฟสอยู่ 30o
ค่ากระแสในวงจร 3 เฟส แบบ Y
• ระบบสมดุล  ไม่มีกระแสไหลในสายนิวทรัล
• กระแสในแต่ละเฟสมีค่าเท่ากับ
Van
Ia   I p  
Zp
Vbn
Ib   I p   120  
Ib Zp
Vcn
Ic   I p   240  
Zp

โดยที่  - Impedance phase angle (มุม Zp)


สามารถเขียนเฟสเซอร์ของกระแสแต่ละเฟสได้เป็น

กรณีระบบ 3 เฟสสมดุล จะได้


• ผลรวมของกระแสในแต่ละเฟส (a,b,c) เท่ากับ ศูนย์
• เนื่องจากการกระแสในสาย (ไหลผ่านอิมพีแดนซ์สาย, ZL)
ถูกนำพาโดยอิมพีแดนซ์เฟส (Zp) ด้วยเหมือนกัน (ไหลผ่าน Zp)

IL

จะได้ กระแสในสาย = กระแสเฟส IL  I p


กรณีระบบที่ต่อไม่สมดุล (Unbalance)
- เกิดจาก ขนาดโหลดแต่ละเฟสไม่เท่ากัน
พบว่า • มีกระแสวิ่งในสายนิวทรัล (กระแส In )
• ผลรวมกระแสในแต่ละเฟส ไม่เท่ากับ ศูนย์

I n  I a  Ib  Ic

In
โอเปอเรเตอร์ a ( a Operator)
• มาจากการที่ระบบ 3 เฟสสมดุล มีแรงดันและกระแสแต่ละเฟสทำ
มุมกัน 120o
• สามารถให้ a แทนการหมุนของมุม 120o ในทิศทวนเข็ม (CCW)
2
j
a  1120  1e 3
 0.5  j 0.866
4
j
a 2  1240  1e 3  0.5  j 0.866

a 3  1360  1e j 2  1  j0  10
จะได้ 1  a  a2  0 เขียนเฟสเซอร์ของผลคูณและฟังชันของ a ได้
กรณีโหลดต่อแบบ Y
1240
จาก แรงดันระหว่างสาย a และ b
Vab  Van  Vbn  V p 10  1  120 

 V p 1  a 2 

จากแผนภาพพบว่า  1  a 2  330

Vab  3 V p 30

 3  V p 0  30

 3 Van  30
ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันระหว่างสายและแรงดันเฟส

กำหนดVan เป็นแรงดันอ้างอิง
ตัวอย่างที่ 2
ระบบ 3 เฟสแบบสมดุล มีแรงดัน Vab เป็น 173.2 Ð 0O V

จงหา แรงดันเฟสและกระแสทั้งหมด เมื่อต่อโหลดแบบ Y โดยมี


โหลด ZL = 10 Ð 20O และสมมติลำดับเฟสเป็น abc

วิธีทำ จาก Vab  173.20 จะได้


Vbc  173.2240

Vca  173.2120
ในการต่อแบบ Y แรงดันระหว่างสาย จะมี ขนาดเป็น 3 เท่าของแรง
ดันเฟส และ มีมุมเฟสนำหน้าอยู่ 30O
Vab
Vab = 3VanÐ30° Van =
3Ð30°

ทำนองเดียวกัน จะได้แรงดันเฟส เป็น


Vab
Van =
3Ð30°
 100  30 V
Vbc
Vbn =
3Ð30°
 100210 V
Vbc
Vcn =
3Ð30°
 10090 V
สามารถเขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรม แสดงความสัมพันธ์ระหว่างแรง
ดันระหว่างสาย กับ แรงดันเฟส ได้เป็น

Vca V cn V ab

30
30
V an
30

Vbn

V bc
เนื่องจากโหลดเป็นการต่อแบบ Y  กระแสในสาย เท่ากับ กระแสเฟส

Van 100  30


จะได้ I an 
ZL

1020

ทำนองเดียวกัน จะได้กระแสเฟสในระบบ เป็น


I an  10  50 A.
I bn  10190 A.
I cn  1070 A.
กรณีโหลดต่อแบบ  (  – Connected Loads)

จากวงจร พบว่า แรงดันระหว่างสาย = แรงดันเฟส


VL  V p
เลือกกระแสเฟส Iab เป็นกระแส
อ้างอิง จะได้
I ab  I p 0
Positive
I bc  I p   120 phase
Sequence
I ca  I p   240

เมื่อ Ip - ขนาดของกระแสเฟส (magnitude of phase current)


a
สามารถหาความสัมพันธ์ระหว่าง
b
กระแสเฟส และ กระแสในสาย
โดยใช้ Kirchhoff’s current Law
c

Node a : I a  I ab  I ca  I p 10  1  240   3 I p   30

Node b : I b  I bc  I ab  I p 1  120  10   3 I p   150

Node c : I c  I ca  I bc  I p 1  240  1  120 

 3 I p 90
ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสเฟส และ กระแสในสาย ในกรณีโหลด
ต่อแบบ  สามารถแทนด้วยเฟสเซอร์ไดอะแกรมดังนี้
กรณีโหลดต่อแบบ 

กระแสในสาย (RMS) : I L  3 I p   30

- กระแสในสาย เป็น 3 เท่าของกระแสเฟส


-กรณี positive phase sequence  กระแสในสายมีมุม
เฟสตามหลัง
กระแสเฟสอยู่ 30o
ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสในสายและกระแสเฟส

กำหนด Iab เป็นแรงดันอ้างอิง


การแปลงจากการต่อแบบ  เป็ น Y (  - Y transformation)

• โหลดแบบ  มีลักษณะเป็นลูป (Loop)ไม่สะดวกในการ


วิเคราะห์ด้วยวงจรไฟฟ้ า
พิจารณาที่ต่อโหลดสมดุลแบบ D จะได้
Vab Vac Vab + Vac
Ia = + =
ZD ZD ZD

จากความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันระหว่างสายและแรงดันเฟส ของ
การต่อโหลดแบบ Y พบว่า

Vab + Vac = 3 Van Ð30° + 3 Van Ð- 30°

= 3Van
Vab + Vac
จาก Ia =
ZD
จะได้
3Van ZD
Ia =
ZD
หรือ Van =
3
Ia

จากวงจรการต่อโหลดแบบ Y พบว่า

Van = ZY I a

ZD
\ จะได้ความสัมพันธ์ เป็น ZY =
3
การวิเคราะห์ต่อเฟส (Per Phase Analysis)

• เป็นการวิเคราะห์วงจร 3 เฟส ในรูปของวงจร 1 เฟส


• ใช้ได้เฉพาะวงจร 3 เฟสสมดุลเท่านั้น ( ไม่มีกระแสไหลในสายนิว
ทรัลเมื่อต่อโหลดแบบ Y, In = Ia + Ib + Ic = 0 )
• ถ้าโหลดต่อแบบ D ต้องแปลงให้เป็นโหลดแบบ Y
• ไม่มีการเหนี่ยวนำทางแม่เหล็กระหว่างเฟส (non – coupling)
• ระบบ 3 เฟสสมดุล ปริมาณทางไฟฟ้ าต่างๆ ในแต่ละเฟสจะมีขนาด
เท่ากัน ต่างกันแค่มุมเฟส เท่านั้น
• สามารถเลือกเฟสใดเฟสหนึ่ง มาใช้เป็นเฟสอ้างอิงในการวิเคราะห์
แบบต่อเฟสได้

วงจรสมมูล 1 เฟส เมื่อใช้เฟส A อ้างอิง (Per Phase Equivalent Circuit)


3 phase

1 phase
สิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ต่อเฟส

1. ค่าพิกัดกำลังไฟฟ้ า (Rated Power) จะต้องเปลี่ยนจากกำลัง


ไฟฟ้ า 3 เฟส ให้เป็นกำลังไฟฟ้ า 1 เฟส

2. ค่าพิกัดแรงดัน (Rated Voltage) จะบอกมาเป็นค่าแรงดัน


ระหว่างสาย (line to line voltage) ในการวิเคราะห์ต่อเฟสจะ
ต้องแปลงให้เป็นแรงดันเฟสก่อน
ตัวอย่างที่ 3
ระบบเป็นวงจร 3 เฟส ต่อโหลดแบบ Y ซึ่งมีค่าอิมพีแดนซ์
- มีแรงดันคร่อมโหลดเป็น 4.4 kV (line-line)
- โหลดแต่ละเฟส มีอิมพีแดนซ์ เป็น 20Ð30° W
- มีอิมพีแดนซ์จากสถานีไฟฟ้ าถึงโหลดเป็น Z = 1.4Ð75°
L W

จงคำนวณหาแรงดันระหว่างสาย (line to line voltage) ที่สถานีไฟฟ้ า

สายส่ง
สถานี โหลด
พิจารณาที่โหลด (กำหนดเป็ นตำแหน่งอ้างอิง)

- แรงดันเฟสที่โหลด มีค่าเป็น
Vline 4400
V phase = = Ð0° = 2540Ð0° V
3 3

- กระแสเฟสที่โหลด มีค่าเป็น

Van 2,540Ð0°
I an = =
ZL 20Ð30°

= 127Ð- 30°
 จาก KCL จะได้แรงดันเฟสที่สถานีไฟฟ้ าเป็น

Van + I an Z L = 2,540Ð0° + (127Ð- 30°´ 1.4Ð75°)

= 2,540Ð0° + 177.8Ð45°

= 2,666 + j125.7
= 2,670Ð2.70° V
 แรงดันระหว่างสาย (line-line) ที่สถานีไฟฟ้ าเป็น
VL = 3 V p Ð30° = 3´ 2.67Ð (2.7° + 30°) kV
= 4.62Ð32.7° kV
จะได้รูปวงจรสมมูล 1 เฟสของระบบ เป็น

Per Phase Circuit


กำลังไฟฟ้ าในระบบ 3 เฟสสมดุล (Balance 3 phase power)

• วิเคราะห์กำลังไฟฟ้ าในระบบ 3 เฟสสมดุล (โหลด Y, D ) โดย


อาศัยแรงดันชั่วขณะ และ กระแสชั่วขณะ

• ส่วนใหญ่จะกำหนดให้ ขั้วของโหลด (Load Terminal) เป็นตำแหน่ง


อ้างอิง (Reference)
แรงดันเฟสชั่วขณะ กระแสเฟสชั่วขณะ
(Instantaneous Voltages) (Instantaneous Current)

van = 2 V p cos (wt + qv ) ia = 2 I p cos (wt + qi )

vbn = 2 V p cos (wt + qv - 120°) ib = 2 I p cos (wt + qi - 120°)

vcn = 2 V p cos (wt + qv - 240°) ic = 2 I p cos (wt + qi - 240°)

เมื่อ Vp , I p - ขนาด rms ของแรงดันเฟส และ กระแสเฟส


ค่ากำลังไฟฟ้ าชั่วขณะ (Instantaneous Power) ของทั้งระบบ หาได้
จากผลรวมของกำลังไฟฟ้ าชั่วขณะจากแต่ละเฟส
จะได้ p3f = vania + vbnib + vcnic

แทนค่าแรงดันชั่วขณะและกระแสชั่วขณะ

p3f = 2 VP I P cos (wt + qv )cos (wt + qi )


+ 2 VP I P cos (wt + qv - 120°)cos (wt + qi - 120°)
+ 2 VP I P cos (wt + qv - 240°)cos (wt + qi - 240°)
จากการใช้คุณสมบัติทางตรีโกณมิติ
1 1
cos A cos B = cos( A - B ) + cos( A + B)
2 2

เขียนสมการ p3f ได้เป็น


p3f = VP I P [cos (qv - qi ) + cos (2wt + qv + qi )]
+ VP I P [cos (qv - qi ) + cos (2wt + qv + qi - 240°)]
+ VP I P [cos (qv - qi ) + cos (2wt + qv + qi - 480°)]

p3f = VP I P {cos (qv - qi ) + cos [2 (wt + qv )- (qv - qi )]}


+ VP I P {cos (qv - qi ) + cos[2(wt + qv )- (qv - qi + 240°)]}
+ VP I P {cos (qv - qi ) + cos[2(wt + qv )- (qv - qi + 480°)]}
p3f = VP I P [cos (qv - qi ) + cos 2 (wt + qv )cos (qv - qi )
+ sin 2 (wt + qv )sin (qv - qi )] + ...
+ VP I P [cos (qv - qi ) + cos 2 (wt + qv )cos (qv - qi + 240°)
+ sin 2 (wt + qv )sin (qv - qi + 240°) + ...
+ VP I P [cos (qv - qi ) + cos 2 (wt + qv )cos (qv - qi + 480°)
+ sin 2 (wt + qv )sin (qv - qi + 480°)

พบว่า - สัญญาณมีความถี่เป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับแหล่งจ่าย


- เมื่อหาค่าเฉลี่ย พจน์ฟังก์ชัน cos และ sin ที่มีความถี่เป็น 2
เท่าจะหายไป
กำลังไฟฟ้ าจริง (Real Power)

P3f = 3 VP I P cos q

เมื่อ q - มุมระหว่างแรงดันเฟสกับกระแสเฟส (impedance angle)

กำลังไฟฟ้ ารีแอคทีฟ (Reactive Power)

Q3f = 3 VP I P sin q

เมื่อ q - มุมระหว่างแรงดันเฟสกับกระแสเฟส (impedance angle)


 เขียนกำลังไฟฟ้ าเชิงซ้อนของระบบ 3 เฟส ได้เป็น

S3  P3  jQ3

 3V p I *p

** กำลังไฟฟ้ าของระบบ 3 เฟส จะเป็ น 3 เท่าเมื่อเทียบกับกำลัง


ไฟฟ้ าของระบบ 1 เฟส**
สามารถเขียนค่ากำลังไฟฟ้ า 3 เฟส ในรูปของ VL และ IL ได้จาก
VL
โหลด Y Vp 
3
และ I p  IL

IL
โหลด  V p  VL และ Ip 
3

แทนค่าในสมการ P3f = 3 VP I P cos q และ Q3f = 3 VP I P sin q

P3  3 VL I L cos 
จะได้
Q3  3 VL I L sin 

เมื่อ q - มุมระหว่างแรงดันเฟสกับกระแสเฟส (impedance angle)


สรุป
• กำลังไฟฟ้ าจริงและกำลังไฟฟ้ ารีแอคทีฟ ของระบบไฟฟ้ า 3 เฟส จะ
มีค่าเท่ากันไม่ว่าจะต่อโหลดแบบ Y และ 

 เขียนกำลังไฟฟ้ าเชิงซ้อนของระบบ 3 เฟส ได้เป็น

S3  P3  jQ3

 3V p I *p

S3  3 VL I L
ตัวอย่างที่ 4
ระบบไฟฟ้ า 3 เฟสระบบหนึ่งมีลักษณะดังรูป
กำหนดให้ แรงดันเฟส a (Va) เป็นจุดอ้างอิงในระบบ จงหา
1) กระแส, กำลังไฟฟ้ าจริง และ กำลังไฟฟ้ ารีแอคทีฟจากแหล่งจ่าย

2) แรงดันระหว่างสายที่จุดต่อโหลด
3) กระแสต่อเฟสในโหลดแต่ตัว (Y,  )
4) กำลังไฟฟ้ าปรากฏในโหลดแต่ละตัว
ระบบ 3 เฟสมีความสมดุล  วิเคราะห์แบบ 1 เฟสได้ (Per Phase)

• แปลงโหลดแบบ  ให้เป็นโหลดแบบ Y

Load
กำหนด Z2 เป็นอิมพีแดนซ์ต่อเฟส ของโหลดแบบ  จะได้
Z AB Z CA
Z2 
Z AB  Z BC  Z CA


 60  j 45  60  j 45 
 60  j 45   60  j 45   60  j 45 

 60  j 45 
2


3   60  j 45 

60  j 45
  20  j15 
3
แรงดันเฟส (เฟส a) มีค่าเท่ากับ
VL 207.85
V1  V p   0 (อ้างอิง)
3 3
 1200 V.

สามารถเขียนเป็นวงจร 1 เฟส (เฟส a) เพื่อใช้วิเคราะห์ได้เป็น


Z1 // Z 2 30  j 40  //  20  j15 


 30  j 40  20  j15 
30  j 40    20  j15 

 22  j 4
อิมพีแดนซ์รวมทั้งระบบ
22  j 4 Z   2  j 4    22  j 4 

 24 

 กระแสเฟส a (เฟสอ้างอิง) ที่ไหลในระบบ เท่ากับ

V1 1200
I   50 A.
Z 240

 กำลังไฟฟ้ าปรากฏ 3 เฟสที่มาจากแหล่งจ่าย เท่ากับ

S  3V p I *p  3V1 I *  3 1200 50 

 1800 W
ZL 

• หาแรงดันเฟสที่จุดต่อโหลด V2

สมการลูป (KVL) V2  V1  IZ L

 1200   2  j 4 50 

 110  j 20

 111.8  10.3 V.
• จากแรงดันเฟสที่ได้ 111.8  10.3 V. นำมาหาค่าแรงดัน
ระหว่างสายที่จุดต่อโหลด

จาก VL  3 V p 30

V2,ab  330V2,an

 3 111.8  30  10.9

 193.6419.7 V.
• หากระแสต่อเฟสที่ไหลในโหลด Y และโหลดสมมูล Y ที่ได้จากการ
แปลงโหลด 

V2 110  j 20 V2 110  j 20
I1   I2  
Z1 30  j 40 Z2 20  j15

 1 j2  4  j2

 2.236  63.4  4.47226.56


• แปลงค่ากระแสเฟสในโหลดสมมูลแบบ Y เป็นกระแสเฟสในโหลด 

จาก I L  3 I p   30 จะได้


I2 4.47226.56
I ab  
3  30 3  30

 2.58256.56 A.
 กำลังไฟฟ้ าปรากฏ 3 เฟส ในโหลดแต่ละตัวในระบบ

S1  3V2 I1*  3 111.8  10.3  2.23663.4 

 450 W + j 600 Var

S 2  3V2 I 2*  3 111.8  10.3  4.472  26.56 

 1200 W  j 900 Var


 กำลังไฟฟ้ า 3 เฟสที่ดูดกลืนในสายส่ง
 3  2  j 4 5   150 W  j 300 Var
2 2
S L  3Z L I

 กำลังไฟฟ้ า 3 เฟสทั้งหมดในระบบ (= กำลังไฟฟ้ าจากแหล่งจ่าย)


S1  S 2  S L   450  j 600   1200  j 900   150  j 300 

 1800 W  j 0 Var
ตัวอย่างที่ 5
ระบบไฟฟ้ า 3 เฟสระบบหนึ่ง มีค่าอิมพีแดนซ์สายส่ง (ต่อเฟส)
เท่ากับ 0.4 + 2.7 Ohm ระบบได้มีการจ่ายโหลด 3 เฟสแบบสมดุลที่
ต่อขนานกัน 2 ชุด โดยที่

โหลด 1 รับกำลังไฟฟ้ า 560.1 kVA ที่ P.F. 0.707 (lagging)

โหลด 2 รับกำลังไฟฟ้ า 132 kW ที่ Unity Power Factor

มี แรงดันระหว่างสายที่ตำแหน่งโหลด (Load End) เท่ากับ 3,810.5 V


จงคำนวณหา

1) ขนาด ของแรงดันระหว่างสายที่ตำแหน่งแหล่งจ่าย (Source)

2) กำลังไฟฟ้ าปรากฏที่สูญเสียในสายส่ง (line loss)


3) กำลังไฟฟ้ าปรากฏที่ตำแหน่งโหลด
4) กำลังไฟฟ้ าที่ต้องจ่ายเข้าไปในระบบทั้งหมด
สามารถเขียนระบบไฟฟ้ า 3 เฟส ในรูปวงจร 1 เฟส ได้เป็น

แรงดันเฟสที่ตำแหน่งโหลด มีค่าเท่ากับ
VL 3,810.5
Vp  V2  0
3 3
 2, 200 V
 กำลังไฟฟ้ าปรากฏ 3 เฟส ที่ตำแหน่งโหลด S R 3 

Load 1   cos 1  0.707   45

S1  V I   560.145
= 396 + j 396

Load 2 S 2 = 132 kW

จะได้ S R 3   S1  S 2 = 528 + j 396

= 660Ð36.87° kVA
 ZL

กระแสเฟสที่ไหลในสายส่ง ( I ) หาจาก
S R*(3f )
S R (3f ) = 3V2 I * I=
3V2*

660,000Ð- 36.87°
=
3(2,000Ð0°)

= 100Ð- 36.87° A.
 ZL

 แรงดันเฟสที่ตำแหน่งแหล่งจ่าย (Sending End)

V1 = IZ L + V2

= (100Ð- 36.87°)(0.4 + j 2.7) + (2000Ð0°)

= 2, 401.7Ð4.58° V
o ขนาดแรงดันระหว่างสายที่ตำแหน่งแหล่งจ่าย

V1,L = 3 V1 = 3 (2401.7)

= 4,160 V.

o กำลังไฟฟ้ าสูญเสียในสายส่ง (line loss) S L(3f )

2 2 2
S L(3f ) = 3 I Z L = 3R I + j 3 X I
2 2
= 3(0.4)(100) + j 3(2.7)(100)

= 12 kW + j84 kVar
 กำลังไฟฟ้ าปรากฏ 3 เฟส ที่ตำแหน่งแหล่งจ่าย

วิธีที่ 1 S S (3f ) = 3V1 I * = 3(2401Ð4.58°)(100Ð36.87°)

= 540 kW + j 477 kVar

วิธีที่ 2 S S (3f ) = S R (3f ) + S L (3f )

= (528 + j 396) + (12 + j81)

= 540 kW + j 477 kVar


End of Section

You might also like