Professional Documents
Culture Documents
เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์
สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่
๖
หัวข้อ : เคมีอินทรีย์
• สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
• ประเภทของสารประกอบและปฏิกิริยาของสารประกอบ
• หมู่ฟังก์ชั่นอินทรีย์
• ประเภทของหมู่ฟังก์ชั่นและปฏิกิริยาของหมู่ฟังก์ชั่น
• เคมีอินทรีย์ในทางการแพทย์และวิศวกรรม
เคมีอินทรีย์ หรือ อินทรีย์เคมี (Organic
chemistry) คืออะไร?
• เคมีอินทรีย์ หรืออินทรีย์เคมี คือ วิชาที่ศึกษาโครงสร้าง องค์
ประกอบ ปฏิกิริยาและการเตรียมสารประกอบที่มีธาตุคาร์บอน
เป็ นองค์ประกอบหลัก
• สารประกอบอินทรีย์ จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
• เป็ นสารประกอบโคเวเลนต์ที่มีคาร์บอนเป็ นองค์ประกอบหลัก
• เป็ นโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต หรือเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภายใน
สิ่งมีชีวิต
สารประกอบต่อไปนี้ เป็ นสารประกอบอินทรีย์
หรือไม่?
• NH4Cl
• HCN
• CH4
• CO2
• CH3COOH
• NH2CONH2
• NaHCO3
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
• สารประกอบไฮโดรคาร์บอน คือ สารประกอบที่มีธาตุคาร์บอน
และไฮโดรเจนเท่านั้น เป็ นองค์ประกอบ
• ประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบ่งออกได้ดังนี้
• สารประกอบอะลิฟาติก Aliphatics
• สารประกอบ Aromatics
ประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
Hydrocarbons
Aliphatics Aromatics
3-ethyl hexane
3-ethyl-4-methyl hexane
2,3-dimethyl butane
3-ethyl-4,5-dipropyl octane
แบบฝึกหัด
• ให้นักเรียนอ่านชื่อสารประกอบไฮโดรคาร์บอนตาม
โครงสร้างที่ครูกำหนดให้
• ให้นักเรียนเขียนโครงสร้างสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ตามชื่อที่ครูกำหนดให้
ปฏิกิริยาของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
• ที่สำคัญมี ๔ ปฏิกิริยา ดังนี้
• ปฏิกิริยาการแทนที่ (substitution reaction) เกิดกับโครงสร้างที่เป็ นพันธะ
เดี่ยวทั้งหมด เกิดได้เมื่อให้พลังงานแก่สารประกอบ อะตอมของธาตุที่ถูก
แทนที่จะหลุดออกมากลายเป็ นโมเลกุลขนาดเล็ก
• ปฏิกิริยาการเติม (addition reaction) เกิดกับโครงสร้างที่มีพันธะคู่หรือ
พันธะสามอยู่ในโมเลกุล ปฏิกิริยาจะเกิดตรงตำแหน่งพันธะคู่หรือพันธะ
สาม ถ้าสารตั้งต้นมีมากเกินพอ พันธะคู่หรือพันธะสามทั้งหมดจะหายไป
สารประกอบจะกลายเป็ นสารที่มีพันธะเดี่ยวทั้งหมด
• ปฏิกิริยาการแตกสลาย (cracking reaction) สารประกอบที่มีโมเลกุล
ขนาดใหญ่จะสลายพันธะกลายเป็ นสารประกอบที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลง
• ปฏิกิริยาการรวมตัว (combination reaction) สารประกอบที่มีโมเลกุล
ขนาดเล็กจะรวมตัวกันกลายเป็ นสารประกอบที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ขึ้น
ตัวอย่างปฏิกิริยาการแทนที่ด้วยธาตุแฮโลเจน
(halogenation reaction)
• ปฏิกิริยาการแทนที่ด้วยธาตุแฮโลเจน จะเป็ นปฏิกิริยาแบบ radical
substitution
• โมเลกุลของแฮโลเจนจะแตกตัวกลายเป็ นอนุมูลอิสระ (radical) ก่อน ใน
ขณะที่สารประกอบไฮโดรคาร์บอนก็จะแตกตัวเป็ นอนุมูลอิสระเช่น
เดียวกัน
หลักการแทนที่ด้วยธาตุแฮโลเจน
• เมื่อแทนที่สารประกอบไฮโดรคาร์บอนด้วย โบรมีน หรือคลอรีน
จะได้สารประกอบแอลคิลเฮไลด์ และกรด
• ลำดับการเกิดปฏิกิริยาเป็ นดังนี้
tertiary>secondary>primary>methyl
• ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยา F2>Cl2>Br2>I2
Example, bromination of methane
• 1. Initiation
• 2. Propagation
Example, bromination of methane
• 3. Termination
จงเขียนปฏิกิริยาการแทนที่ของสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนต่อไปนี้
• Hexane with bromine
• 3,3-dimethyl hexane with bromine
• Propane with chlorine
• 2-methyl butane with bromine
• Cyclohexane with chlorine
• Methyl cyclohexane with bromine
ปฏิกิริยาการเติม (addition reaction) ตรงตำแหน่งพันธะคู่
หรือพันธะสาม
• ปฏิกิริยาการเติม จะทำลายพันธะคู่ให้กลายเป็ นพันธะ
เดี่ยว พันธะสามให้กลายเป็ นพันธะคู่ หรือถ้ามีสารตั้งต้น
มากพอก็จะทำให้กลายเป็ นพันธะเดี่ยวได้
• สารที่ใช้เติม เช่น ก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซแฮโลเจน
โมเลกุลของน้ำ กรดไฮโดร เป็ นต้น
• ปฏิกิริยาการเติม จะเป็ นแบบ cathion anion reaction
Example, bromination with ethene
• 1. the structure of ethene
Propanol
• แบบที่ ๒ อ่านโดยให้หมู่ฟังก์ชั่นเป็ นเพียงกิ่งหนึ่งกิ่งใน
โครงสร้างสายหลักของไฮโดรคาร์บอน ให้อ่านกิ่งที่เป็ นหมู่ฟัง
ก์ชั่นแอลกอฮอล์ว่า hydroxyl เช่น
แบบที่ ๑ จะอ่านว่า 2-
propanol
แบบที่ ๒ จะอ่านว่า 2-hydroxyl
propane
จงอ่านชื่อสารประกอบแอลกอฮอล์ต่อไปนี้ ทั้งใน
แบบที่ ๑ และแบบที่ ๒
คุณสมบัติของแอลกอฮอล์
• โมเลกุลของแอลกอฮอล์จะมีแรงยึดเหนี่ยวที่เรียกว่าพันธะไฮโดรเจน
ทำให้มีจุดเดือดจุดหลอมเหลวสูง แต่ถ้าแอลกอฮอล์ที่มีจำนวนคาร์บอน
อะตอมขนาดเล็ก เช่น เมทานอล เอทานอล จะระเหยง่าย
• เป็ นโมเลกุลมีขั้ว สามารถละลายน้ำได้แต่ถ้าจำนวนคาร์บอนอะตอมมี
มาก จะละลายน้ำได้น้อยลง
• แอลกอฮอล์เป็ นกรดอ่อน ไม่เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสแต่สามารถทำ
ปฏิกิริยาแทนที่กับโลหะหมู่ I A แล้วให้ก๊าซไฮโดรเจนได้
• แอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็ นพิษ โดยที่ เอทานอลเป็ นพิษน้อยสุด สามารถรับ
ประทานได้ในปริมาณหนึ่ง และกระเพาะอาหารจะดูดซึมแอลกอฮอล์ได้ดี
มาก
หมู่ฟังก์ชั่นอีเทอร์ (R-O-R’)
• การอ่านชื่อ สามารถอ่านได้สองแบบ ดังนี้
• แบบที่ ๑ อ่านหมู่แอลคิลสองหมู่ที่อยู่ระหว่างออกซิเจน แล้ว
ลงท้ายด้วย ether เช่น
Ethyl methyl ether
• แบบที่ ๒ อ่านหมู่ฟังก์ชั่นอีเทอร์เป็ นกิ่ง แล้วอ่านสายหลักเป็ น
ไฮโดรคาร์บอน เช่น
+
+
+
+
การอ่านชื่อสารประกอบเอสเทอร์ (Ester)
• ให้อ่านชื่อหมู่แอลคิลที่มาจากแอลกอฮอล์ แบบหมู่แอลคิล แล้วอ่านสาย
หลักที่มาจากกรดอินทรีย์โดยเปลี่ยนจาก –oic ของกรดอินทรีย์ เป็ น –
oate เช่น
Methyl propanoate
Acid=Ethanoic acid
Alcohol=ethanol
Ester=?
จงอ่านชื่อผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากกรดอินทรีย์และ
แอลกอฮอล์ต่อไปนี้
• 1. ethanol with propanoic acid
• 2. 2-methyl-butanol with acetic acid
• 3. 2-propanol with pentanoic acid
• 4. 2,3-dimethyl pentanol with benzoic acid
• 5. cyclohexanol with 3-chloro-hexanoic acid
คุณสมบัติของเอสเทอร์
• เอสเทอร์เป็ นสารอินทรีย์ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว นิยมนำไปสกัดทำ
น้ำหอม หรือกลิ่นสังเคราะห์ต่างๆ
• โมเลกุลเล็กๆสามารถละลายน้ำได้ดี ถ้ามีด่างเป็ นตัวเร่งปฏิกิริยา
จะเกิดไฮโดรลิซิสกลับมาเป็ นกรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์
• เอสเทอร์สามารถทำปฏิกิริยากับด่างได้เกลือของเอสเทอร์ และ
แอลกอฮอล์
หมู่ฟังก์ชั่นแอลดีไฮด์ (R-COH)
• การอ่านชื่อ ให้อ่านแบบสารประกอบไฮโดรคาร์บอน โดยให้หมู่
ฟังก์ชั่นแอลดีไฮด์เป็ นสายหลัก แล้วลงท้ายด้วย –al เช่น
Ethanal
จงอ่านชื่อสารอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชั่นแอลดีไฮด์
ต่อไปนี้
คุณสมบัติของแอลดีไฮด์
• ไม่มีพันธะภายในโมเลกุลแต่สามารถสร้างพันธะไฮโดรเจนกับ
น้ำ ละลายน้ำได้เมื่อมีจำนวนอะตอมของคาร์บอนขนาดเล็กๆ
• เป็ นหมู่ฟังก์ชั่นที่พบได้ในน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวบางชนิด เช่น
กลูโคส กาแลกโทส
หมู่ฟังก์ชั่นคีโตน (RCOR’)
• การอ่านชื่อสารประกอบคีโตน ให้อ่านโดยให้สายหลักเป็ นสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอน แล้วระบุตำแหน่งที่มีหมู่ฟังก์ชั่นคีโตน ลงท้ายชื่อสาย
หลักด้วย –one เช่น
Propanone 2-Butanone
จงอ่านชื่อสารอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชั่นคีโตนต่อ
ไปนี้
คุณสมบัติของคีโตน
• มีสมบัติเป็ นกลาง ไม่เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัส
• เป็ นตัวทำละลายที่ดี สามารถละลายน้ำได้เมื่อโมเลกุลมีขนาด
เล็ก
• มีสมบัติ isomerism กับแอลดีไฮด์
หมู่ฟังก์ชั่นเอมีน (R-NH2)
• การอ่านชื่อ ให้ระบุตำแหน่งของหมู่ฟังก์ชั่นเอมีน แล้วอ่านตามหลักการ
อ่านสารประกอบไฮโดรคาร์บอน โดยลงท้ายโซ่หลักเป็ น –amine เช่น
Pentanamide
จงอ่านชื่อสารอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชั่นเอไมด์ต่อ
ไปนี้
คุณสมบัติของสารประกอบเอไมด์
• เอไมด์เป็ นมีคุณสมบัติเป็ นกลาง
• สามารถไฮโดรลิซิสกลับมาเป็ นกรดอินทรีย์และเอมีน เมื่อมีกรด
หรือเบสเป็ นตัวเร่งปฏิกิริยา
ปฏิกิริยาของสารประกอบอินทรีย์
• ปฏิกิริยาแทนที่ (substitution) เป็ นปฏิกิริยาที่อะตอมในโมเลกุลถูก
แทนที่ด้วยอะตอมอื่น
• ปฏิกิริยาการเติม (addition) เป็ นปฏิกิริยาที่สองโมเลกุลมารวมกันแล้วได้
หนึ่งโมเลกุล มักเกิดที่พันธะคู่หรือพันธะสาม
• ปฏิกิริยาการกำจัด (elimination) เกิดตรงข้ามกับปฏิกิริยาการเติม มีการ
สูญเสียอะตอมหรือหมู่อะตอมสองหมู่จากโมเลกุล ผลผลิตอาจได้ทั้ง
โมเลกุลที่เป็ นพหุพันธะ เป็ นวง หรือเป็ นพวกคาร์บีน
• ปฏิกิริยาการจัดเรียงตัวใหม่ (rearrangement) เป็ นปฏิกิริยาที่พันธะใน
โมเลกุลมีการเคลื่อนย้าย เปลี่ยนจากไอโซเมอรหนึ่งไปเป็ นอีกไอโซเม
อร์
• ปฏิกิริยารีดอกซ์ (Redox)เป็ นปฏิกิริยาที่มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอน มีการ
Reagent ในการทำปฏิกิริยาเคมี
• ตำแหน่งของโมเลกุลที่มีความว่องไว มี ๒ ประเภทคือ
• Nucleophilic เป็ นพวกโมเลกุลมีตำแหน่งที่มีความหนาแน่นของอิเล็กตรอนสูง
เนื่องจาก มีคู่อิเล็กตรอนที่ไม่ได้ใช้ร่วม พันธะที่มีขั้วแบบ δ- หรือ มี ∏ อิเล็กตรอน
ของ C=C เรียกตัวเข้าทำปฏิกิริยานี้ว่า นิวคลีโอไฟล์ (nucleophile) หรือตัวให้
อิเล็กตรอน (electron-donors)
• Electrophilic คือพวกที่โมเลกุลมีตำแหน่งขาดอิเล็กตรอน เนื่องจาก มีตำแหน่งที่
รับอิเล็กตรอนได้มากขึ้น พันธะที่มีขั้วแบบ δ+ เรียกตัวเข้าทำปฏิกิริยานี้ว่า อิเล็ก
โตรไฟล์ (electrophile) หรือตัวรับอิเล็กตรอน (electron-acceptors)
ชนิดของ carbocation
• แบ่ง carbocation ได้หลายชนิด ตามจำนวนหมู่แอลคิลที่เข้าไป
แทนที่ คือ
• Primary carbocation, 10 สูตรทั่วไปคือ R-CH2+
• Secondary carbocation, 20 สูตรทั่วไปคือ R2CH+
• Tertiary carbocation, 30 สูตรทั่วไปคือ R3C+
ปฏิกิริยาการเติม (Addition)
• เกิดกับสารประกอบไม่อิ่มตัว เช่น ไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัวและสารประ
กอบคาร์บอนิล
• โดยโมเลกุลมีการรับเอาอะตอม หรือกลุ่มอะตอมเข้ารวมกับพันธะ ∏
ปฏิกิริยาการแทนที่ (Substitution reaction)
• ปฏิกิริยาที่อะตอมหรือหมู่ของอะตอมในโมเลกุล หรือไอออน ถูกแทนที่
ด้วยอะตอมหรือหมู่อะตอมใหม่
กลไกการเกิดปฏิกิริยาแทนที่
• 1. ปฏิกิริยาอนุมูลอิสระ เกิดผ่านอนุมูลอิสระ
• 2. ปฏิกิริยาแทนที่นิวคลีโอฟิลิก จะมีนิวคลีโอไฟล์มาเกี่ยวข้อง
แบ่งได้2 แบบ
• แบบ SN1 กลไกจะเกิด 2 ขั้นตอน คือ พันธะเก่าแตกออกก่อน
ผ่านคาร์โบแคทไอออน แล้วจึงสร้างพันธะใหม่กับนิวคลีโอ
ไฟล์
• แบบ SN2 เกิดผ่านขั้นตอนเดียว คือ การสลายพันธะเก่าพร้อม
กับสร้างพันธะใหม่กับนิวคลีโอไฟล์
ปฏิกิริยาการกำจัด (Elimination reaction)
• เป็ นปฏิกิริยาที่อะตอมหรือหมู่อะตอมในโมเลกุลหลุดออกแล้ว
เกิดเป็ นพันธะคู่ พันธะสาม หรือวงแหวน
ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น-รีดักชั่น ของสารอินทรีย์
• เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนอิเล็กตรอน มีการเปลี่ยนแปลงเลข
ออกซิเดชั่น และมักเกิดคู่กับปฏิกิริยาอื่นๆ เช่น การเติม หรือ
การแทนที่
• ตัวออกซิไดซ์ที่นิยมใช้ได้แก่ KMnO4, H2SO4, O3, O2, K2Cr2O7
• ตัวรีดิวซ์ที่นิยมใช้ได้แก่ LiAlH4, NaBH4
เคมีอินทรีย์ในทางการแพทย์
เคมีอินทรีย์ในทางวิศวกรรม
• ยาฆ่าแมลง
• ยาฆ่าแมลงกลุ่ม คาร์บาเมต (carbamates) เป็ นยาฆ่าแมลงกลุ่มหนึ่งที่มี
ใช้อยู่ในปัจจุบัน สารกลุ่มนี้ชนิดแรกที่ใช้คือ อีเซอรีน (eserene) ซึ่งพบใน
เมล็ดถั่วคาลาบาร์ อยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก ผู้ต้องสงสัยว่าจะทำผิด
กฎหมายจะถูกบังคับให้กินยาที่ปรุงจากเมล็ดถั่ว ถ้ามีชีวิตรอดจะถือว่า
ไม่มีความผิด
• กลไกการเกิดปฏิกิริยา สารกลุ่มคาร์บาเมตจะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงาน
ของ acetylcholinesterase inhibitor ซึ่งมีผลทำให้สารสื่อประสาทที่ชื่อ
acetylcholine ถูกทำลายลดลง จึงเกิดอาการพิษเนื่องจากการทำงาน
ของระบบสารสื่อประสาท cholinergic ทำงานมากเกิดปกติ
• ปกติสารกลุ่มคาร์บาเมตไม่สะสมในร่างกาย และไม่เป็ นสารก่อมะเร็งยก
เว้นคาร์บาริลและคาร์โบฟิวแรน สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ระคายเคือง
โครงสร้างของยาฆ่าแมลงกลุ่มคาร์บาเมต บาง
ชนิด
Carbaryl Carbofuran
รายงานเรื่องสารอินทรีย์
• ให้นักเรียนทำรายงานเรื่อง สารอินทรีย์ โดยระบุชื่อ สูตรเคมี โครงสร้าง
สารประกอบ และระบุหมู่ฟังก์ชั่นที่สารอินทรีย์ตัวนั้นมี รวมถึงประโยชน์
และโทษของสารอินทรีย์ชนิดนั้นๆ มา คนละ ๕ ชนิด (ห้ามซ้ำกัน) เป็ น
คะแนนเก็บ 10 คะแนน
• นักเรียนบอกได้หรือไม่ว่า ไขมันชนิดใดมีปริมาณกรดไขมันไม่
อิ่มตัวอยู่มากที่สุด?
แบบฝึ กหัด
• มีกรดไขมันอยู่สามชนิด คือ กรดโอเลอิก กรดเสตียริก และกรดปาล์มิติก
จงหาจำนวนชนิดของไขมันที่เป็ นไปได้ทั้งหมด เมื่อกรดไขมันทังสาม
ชนิดสร้างพันธะกับกลีเซอรอลหนึ่งโมเลกุล
• กรดไขมันชนิดหนึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลเป็ นดังนี้