หน่วย2_พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก

You might also like

Download as pptx, pdf, or txt
Download as pptx, pdf, or txt
You are on page 1of 32

พระพุทธศาสนา

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่
หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน

รู้ที่ ๑ รู้ที่ ๒ รู้ที่ ๓ รู้ที่ ๔ และวัฒนธรรม
หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน หน่วยการเรียน
รู้ที่ ๕ รู้ที่ ๖ รู้ที่ ๗ รู้ที่ ๘ รู้ที่ ๙

๑_หลักสูตรวิชา
พระพุทธศาสนา
๒_แผนการจัดการเรียน
รู้
๓_PowerPoint_ประก
อบการสอน
๔_Clip
๕_ใบงาน_เฉลย
๖_ข้อสอบประจำ
หน่วย_เฉลย
๗_การวัดและประเมิน
ผล
๘_รูปภาพ
๙_เสริมสาระ
๑o_สื่อเสริมการเรียนรู้

บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200


Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสาร : 02 622 1311-8 webmaster@aksorn.com / www.aksorn.com
หน่วยการ ๒
เรียนรู้ที่
พุทธประวัติ พระ
สาวก
ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก

จุดประสงค์การเรียนรู้

ก. วิเคราะห์พุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางต่างๆ หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่กำหนดได้
ข. วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า
และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่กำหนดได้
พุทธ การแสดงปฐมเทศนา ธัมมจัก
ประวัติ กัปปวัตตนสูตร

• หลังจากตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาสงสารสัตว์โลก จึง


ทรงมีพระประสงค์จะไปแสดงธรรมโปรดอาฬารดาบส กาลามโคตร และ
อุททกดาบส รามบุตร แต่ท่านทั้งสองสิ้นชีพไปก่อนหน้านั้น ๗ วันแล้ว จึง
ตัดสินพระทัยจะไปโปรดปั ญจวัคคีย์ ซึ่งเคยรับใช้พระองค์ขณะทรง
บำเพ็ญทุกกรกิริยา โดยพระองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาที่เรียกว่า ธัมมจัก
กัปปวัตตนสูตร
พุทธ การแสดง
ประวัติ ปฐมเทศนา
ธัมมจักกัปปวัต
ตนสูตร
๑ • ทรงชี้ว่ามีทาง “สุดโต่ง” ๒ ทางที่บรรพชิตไม่พึงปฏิบัติ คือ การหมกมุ่น
ในกามอันเป็ นทางหย่อนเกินไป และการทรมานตนให้ลำบาก อันเป็ น
ทางตึงเกินไป

๒ • ทรงแสดง “ทางสายกลาง หรือมัชฌิมาปฏิปทา” คือ อริยมรรค มีองค์


แปดประการ อันได้แก่ เห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ การงานชอบ
อาชีพชอบ พยายามชอบ สติชอบและสมาธิชอบ

๓ • ทรงแสดง “อริยสัจสี่ประการ” คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อย่างพิสดาร


และครบวงจร ว่าพระองค์นั้นทรงตรัสรู้สิ่งเหล่านี้อย่างไร

๔ • หลังฟั งเทศน์จบลง โกณฑัญญะได้ “ดวงตาเห็นธรรม” จึงทูลขอบวช


พระพุทธองค์ประทานการบวชด้วยการอุปสมบท เรียกว่า “เอหิภิกขุ
อุปสัมปทา” ถือเป็ นพระสาวกรูปแรกในพระพุทธศาสนา

๕ • กล่าวถึงเทพทั้งหลายตั้งแต่ภุมมเทวดา ได้ป่ าวร้องบอกต่อๆ กันไปจนถึง


หมู่พรหมว่า พระพุทธเจ้าทรงหมุน กงล้อคือ พระธรรม ที่ไม่มีใครไม่ว่า
สมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม สามารถหมุนกลับได้
พุทธ โอวาทปาฏิ
ประวัติ โมกข์

• ในคืนวันเพ็ญเดือน ๓ พระสงฆ์สาวกจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ได้มาเฝ้ า


พระพุทธเจ้าที่วัดพระเวฬุวันโดยมิได้นัดหมายกัน ท่านเหล่านั้นล้วนเป็ น
เอหิภิกขุ (พระสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าประทานอุปสมบทให้) ซึ่งเป็ นพระ
อรหันต์ ผู้ทรงอภิญญา พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าการประชุมใหญ่ของ
สงฆ์ประกอบด้วยองค์ ๔ คือ จาตุรงคสันนิบาต จึงทรงแสดงโอวาท
ปาฏิโมกข์
พุทธ โอวาทปาฏิ
ประวัติ โมกข์

• ทรงแสดงถึงอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา คือ
พระนิพพาน

• ทรงแสดงถึงหลักการทั่วไปของพระพุทธศาสนา ๓
ประการ คือ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การ
โอวาทปาฏิ ทำความดีให้พร้อม และการทำจิตของตนให้
ผ่องแผ้ว
โมกข์ • ทรงแสดงถึงวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยเน้น
หัวใจพระพุทธ การไม่ว่าร้ายคนอื่น ไม่เบียดเบียนคนอื่น ใช้
ขันติธรรม และสันติวิธีในการเผยแผ่พระพุทธ
ศาสนา ศาสนา
• ตรัสถึงคุณสมบัติของผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ
ต้องเป็ นผู้เคร่งครัดในระเบียบ ข้อบังคับ อยู่ในที่
สงบสงัด รู้ประมาณโภชนาการ และฝึ กจิตให้มี
สมาธิอย่างสูงยิ่ง
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

ปางมาร
วิชัย
• ขณะที่พระพุทธองค์ทรงนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์ พญาวสวัตดีมารได้มาขับไล่
พระองค์ และอ้างว่าบัลลังก์เป็ นของตน พระพุทธองค์ทรงแย้งว่าบัลลังก์เป็ น
ของพระองค์ และทรงตรัสว่า “ขอให้วสุนธราจงเป็ นพยาน” ทันใดนั้นพระแม่
ธรณีได้ผุดขึ้นมาจากแผ่นดินและบีบมวยผมบันดาลให้เกิดกระแสน้ำไหลท่วม
กองทัพพญามารจนพ่ายแพ้ ชาวพุทธจึงสร้างปางนี้ขึ้น
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

ปางลีลา

• ปางนี้มีความเกี่ยวโยงกับปางเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กล่าวคือ
หลังจากพระพุทธองค์เสด็จขึ้นไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อ
แสดงธรรมโปรดพุทธมารดาตลอด ๓ เดือนแล้ว ก็เสด็จลงมาจากสวรรค์
ซึ่งพระพุทธลีลานอกจากบ่งบอกถึงความงามอันอ่อนช้อย น่าเลื่อมใส
ศรัทธาแล้วยังหมายถึงการเคลื่อนไหวด้วยพระมหากรุณา เพื่อโปรดเวไนย
สัตว์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

ปาง
ปฐมเทศน
• า
หลังจากตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าเสด็จดำเนินด้วยพระบาทไปยังป่ าอิสิปตน
มฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
อันว่าด้วยอริยสัจ ๔ ประการ แก่ปั ญจวัคคีย์โดยมีโกณฑัญญะเป็ นหัวหน้า
ในการแสดงปฐมเทศนานี้ เรียกอีกอย่างว่า ทรงหมุนกงล้อธรรมชาติ ซึ่ง
เป็ นเครื่องหมายแห่งการประกาศพระพุทธศาสนาเป็ นครั้งแรก
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

ปางประจำ
วันเกิด
• สังคมไทยเป็ นสังคมชาวพุทธ ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา มีคติความ
เชื่อและนับถือในเรื่องของการบูชาพระประจำวันเกิดของตนนอกเหนือไป
จากการเคารพบูชาพระพุทธรูปทั่วๆ ไป โดยเชื่อว่าถ้าได้บูชาพระประจำวัน
เกิด ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเป็ นสิริมงคลแก่ตนเองมากขึ้น โดยพระปาง
ประจำวันเกิด แต่ละปางมีดังนี้
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันอาทิตย์

ปางถวาย
เนตร
• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองเพ่งไปข้างหน้า
พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงมาประสานกันอยู่ข้างหน้า พระหัตถ์ขวาซ้อน
เหลื่อมอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย

• หลังตรัสรู้ใหม่ๆ พระพุทธเจ้าเสด็จออกจากโคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปทาง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ทรงทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์โดย
ไม่กระพริบพระเนตรเป็ นเวลา ๗ วัน เพื่อรำลึกถึงคุณประโยชน์ของต้น
พระศรีมหาโพธิ์ที่อำนวยช่วยพระองค์จนได้ตรัสรู้เป็ นพระพุทธเจ้า
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันจันทร์

ปางห้าม
สมุทร
• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน ยื่นพระหัตถ์ทั้งสองไปข้างหน้า แบ
พระหัตถ์ตั้งข้างหน้าเสมอพระอุระ

• ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับที่โรงไฟเมื่อคราวเสด็จไปโปรดชฎิล ๓ พี่น้อง
แล้วเกิดฝนตกหนัก น้ำหลากท่วมบริเวณที่ประทับอยู่ พวกชฎิล ๓ พี่น้อง
หนีขึ้นบนที่ดอน ส่วนพระพุทธเจ้ามิได้เสด็จหนี เช้ามาพวกชฎิล ๓ พี่น้อง
ได้ออกตามหาจนพบพระพุทธองค์ทรงยืนอยู่ภายในวงล้อมของน้ำที่ท่วม
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันอังคาร

ปาง
ไสยาสน์
• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองเสมอกัน
พระหัตถ์ซ้ายทาบพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียร มีพระเขนย
รองรับ เรียกอีกอย่างว่า “ปางโปรดอสุรินทราหู”

• เป็ นเหตุการณ์เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี


ครั้งนั้นอสุรินทราหูจอมอสูรสำคัญว่าตนมีร่างกายใหญ่โต แสดงความ
กระด้างกระเดื่องไม่ยอมอ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ จึงทรงมีพระประสงค์
จะลดทิฐิของจอมอสูร จึงทรงเนรมิตกายจนใหญ่กว่า อสุรินทราหูจึงยอม
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันพุธ (กลาง
วัน)

ปางอุ้ม
บาตร
• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประคองบาตร

• เป็ นเหตุการณ์เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปโปรดพระประยูรญาติกรุง
กบิลพัสดุ์ รุ่งขึ้นอีกวันจากวันเสด็จไปถึงในเวลาตอนเช้า พระพุทธองค์ก็
ทรงบาตรพาภิกษุสงฆ์ออกไปโปรดสัตว์ เสด็จพุทธดำเนินไปตามถนนใน
กรุงกบิลพัสดุ์
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันพุธ (กลาง
คืน)

ปางป่ าเล
ไลยก์
• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวาง
คว่ำบนพระชานุ พระหัตถ์ขวาวางหงาย

• เป็ นเหตุการณ์เมื่อครั้งพระภิกษุเมืองโกสัมพีทะเลาะกันขนานใหญ่
พระพุทธองค์ได้เสด็จไปห้ามปราม แต่เนื่องจากไม่มีใครฟั ง
พระองค์จึงเสด็จหลีกไปประทับอยู่ในป่ า โดยมีพญาช้างปาลิไลยกะและ
ลิงคอยดูแลเฝ้ าปรนนิบัติ
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันพฤหัสบดี

ปางสมาธิ

• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระบาทขวาทับ
พระบาทซ้าย พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายบนพระเพลา โดยพระหัตถ์ขวา
ทับพระหัตถ์ซ้าย

• เป็ นเหตุการณ์เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสรู้เป็ นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเช้าตรู่ของวันเพ็ญขึ้น ๑๕
ค่ำ เดือน ๖ (วันวิสาขบูชา) ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันศุกร์

ปางรำพึง

• พระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกัน ยกขึ้นทาบ


พระอุระ โดยพระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย

• เมื่อพระพุทธองค์ทรงรำพึงถึงธรรมะที่ตรัสรู้ว่ามีความลึกซึ้งคัมภีร์ภาพ
ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ ก็ทรงรู้สึกอ่อนพระทัยในการออกไปโปรดสัตว์
แต่เมื่อท้าวสหัมบดีพรหมมาทูลอัญเชิญ จึงทรงตัดสินพระทัยไปเทศนาสั่ง
สอนประชาชน
พุทธ พุทธประวัติจากพระพุทธ
ประวัติ รูปปางต่างๆ

วันเสาร์

ปาง
นาคปรก
• พระพุทธรูปประทับขัดสมาธิเหนือขนดพญานาคที่มาขดให้ประทับ และแผ่
พังพานบังลมและฝนให้

• เป็ นเหตุการณ์หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ขณะประทับใต้ต้นมุจ


จลินท์ (ต้นจิก) มีฝนตกพร่ำๆ ๗ วัน เมื่อฝนหยุดแล้ว พญานาคได้จำแลง
กายเป็ นมานพหนุ่ม ยืนประคองอัญชลีอยู่ข้างๆ
ประวัติพุทธสาวก พระอัญญาโกณ
พุทธสาวิกา ฑัญญะ
ประวัติ

• เดิมชื่อ โกณฑัญญะ เกิดในตระกูลพราหมณ์แห่งบ้านโทณวัตถุ กรุงกบิล


พัสดุ์
• เป็ นพราหมณ์ที่มาทำนายพระลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะหลังประสูติได้
๕ วัน โดยทำนายว่า “เจ้าชายน้อยนี้ ต่อไปจะเสด็จออกผนวชและได้เป็ น
ศาสดาเอกของโลกแน่นอน”
• ภายหลังเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว โกณฑัญญะฟั งธรรมจน (ดวงตาเห็น
ธรรม) และทูลขออุปสมบทเป็ นพระสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา
คุณธรรมที่ควรถือเป็ นแบบ
อย่าง

• เป็ นผู้มีประสบการณ์มาก มีความรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม


• เป็ นคนรักสันโดษ ชอบชีวิตสงบ
• ทำตนเป็ นแบบอย่างที่ดีในด้านความประพฤติ
• เป็ นผู้เห็นการณ์ไกล
ประวัติพุทธสาวก พระนางมหาปชาบดี
พุทธสาวิกา โคตมีเถรี
ประวัติ

• พระนางมหาปชาบดีโคตมี เป็ นพระน้านางของพระพุทธเจ้า


• เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จเมืองเวสาลี พระนางประชาบดีโคตรมีและนางสากิย
านีจำนวนมากได้ปลงพระเกศา ห่มผ้ากาสายะเพื่อทูลขอบวช ทำให้
พระพุทธเจ้าทรงวางหลักปฎิบัติครุธรรม ๘ ประการ สำหรับสตรีผู้จะมา
บวช
• พระนางประชาบดีโคตรมีทรงยินดีปฏิบัติตามครุธรรม ๘ ประการ จึงได้รับ
การอุปสมบท ออกผนวชเป็ นภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา
คุณธรรมที่ควรถือเป็ นแบบ
อย่าง

• เป็ นผู้มีความตั้งใจแน่วแน่หรือแรงจูงใจใฝ่ สัมฤทธิ์ เมื่อตั้งใจกระทำอะไร


แล้ว จะไม่ละความพยายามง่ายๆ
• เป็ นผู้มีความอดทนสูงยิ่ง
• เป็ นผู้มีคารวธรรมอย่างยิ่ง มีความเคารพ น้อมรับฟั งและปฏิบัติตามอย่าง
ว่าง่าย
ประวัติพุทธสาวก พระเขมาเถรี
พุทธสาวิกา
ประวัติ

• พระนางเขมาเป็ นพระราชธิดาของพระเจ้าสาคละแห่งสาคลนคร ในมัททรัฐ


ต่อมาเมื่อเจริญวัยได้เป็ นมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร
• ระยะแรกมิได้ฝั กใฝ่ ในพระพุทธศาสนา ทรงหลงใหลในพระรูปสมบัติของ
ตนเอง จึงไม่ยอมเข้าเฝ้ าพระพุทธเจ้า
• พระเจ้าพิมพิสารทรงหาอุบาย โดยให้กวีแต่งชมความงามของพระวิหารเวฬุ
วัน จนในที่สุดพระนางเขมาก็ได้รับฟั งธรรมจากพระพุทธเจ้า จึงทูลขอบวช
และบรรลุอรหัตผล
คุณธรรมที่ควรถือเป็ นแบบ
อย่าง

• เป็ นผู้มีปั ญญามาก จนกระทั่งได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็ นเลิศ


กว่าผู้อื่น ได้รับการแต่งตั้งเป็ นพระอัครสาวิกาเบื้องขวาฝ่ ายภิกษุณี
• เป็ นผู้มีปฏิภาณ มีไหวพริบที่ดี เราสามารถฝึ กฝนได้เช่นเดียวกัน
ประวัติพุทธสาวก พระเจ้าปเสนทิ
พุทธสาวิกา โกศล
พระราช
ประวัติ
• พระเจ้าปเสนทิโกศลเป็ นพระราชโอรสของพระเจ้าโกศล ผู้ครองเมืองสาวัต
ถี แคว้นโกศล
• ก่อนนั้นนับถือนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ต่อมานับถือพระพุทธศาสนา
เพราะเห็นจริยวัตรอันงดงามของพระสงฆ์
• พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงมีความมั่นคงในพระรัตนตรัยและเคารพต่อ
พระพุทธเจ้าอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เข้าเฝ้ าจะอภิวาทหรือกราบอย่างนอบน้อม
• ภายหลังถูกการายนอำมาตย์ก่อกบฏ และต่อมาก็เสด็จสวรรคต
คุณธรรมที่ควรถือเป็ นแบบ
อย่าง
• ทรงมั่นคงในพระรัตนตรัย
• ทรงรักษาความมั่นคงของพระพุทธศาสนาอย่างดียิ่ง
• ทรงมีพระทัยกว้าง ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น
• ทรงยอมรับผิดและพร้อมจะแก้ไข
ศาสนิกชน หม่อมเจ้าหญิงพูน
ตัวอย่าง พิสมัย ดิศกุล
พระประวัติ

• หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล เป็ นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ


กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และหม่อมเฉื่อย
• ประสูติเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๘
• ทรงเป็ นผู้มีความสนพระทัยในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
• ทรงมีความรู้ในพระพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งเช่น
• ทรงบรรยายหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อยู่เสมอ
• ทรงสิ้นชีพิตักษัยด้วยพระโรคชรา เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.
๒๕๓๓ รวมพระชันษาได้ ๙๕ ปี
ศาสนิกชน หม่อมเจ้าหญิงพูน
ตัวอย่าง พิสมัย ดิศกุล

• กรรมการบริหารและอุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ใน
งานด้านการ พระบรมราชูปถัมภ์
บริหาร • ประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) รอง
ประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.)
• ประธานกิตติมศักดิ์ขององค์การ (พ.ส.ล.)
• กรรมการมูลนิธิเทมเบิลตัน

• ทรงมีความสามรถในการเขียนหนังสือสำหรับเด็ก
• ทรงนิพนธ์หนังสือ ศาสนคุณ เป็ นหนังสือสอนพระพุทธศาสนา
งานเขียน แกเด็ก ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑ ในการประกวดหนังสือ
จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
• ทรงนิพนธ์บทความและหนังสือเกี่ยวกับชาติ ศาสนา พระมหา
กษัตริย์ ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมไทยอีก
จำนวนมาก
ศาสนิกชน หม่อมเจ้าหญิงพูน
ตัวอย่าง พิสมัย ดิศกุล
คุณธรรมที่ควรถือเป็ น
แบบอย่าง

• ทรงเป็ นอุบาสิกาที่เคร่งครัด ทรงมีความสนพระทัยในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่


ยังทรงพระเยาว์ ทรงมีความเชื่อมั่น ในหลักการของพระพุทธศาสนาและ
เลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง

• ทรงเป็ นพหูสูต ทรงศึกษาภาษาบาลีอย่างจริงจัง จนให้ทรงศึกษาพระพุทธ


ศาสนาได้แตกฉานและยังทรงนิพนธ์หนังสือธรรมที่ชื่อว่า ศาสนคุณ ได้อย่างยอด
เยี่ยม

• ทรงเป็ นแบบอย่างของพลเมืองดี ทรงจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาสมบัติล้ำค่า


ของชาติ ผลงานพระนิพนธ์ต่างๆ ของพระบิดาได้บริจาคให้กับทางรัฐบาล
เพื่อเก็บไว้เป็ นสมบัติชาติให้ประชาชนได้ศึกษา
ศาสนิกชน ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
ตัวอย่าง
ประวัติ

• ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็ นบุตรของมหาอำมาตย์ตรี พระยาธรรม


สารเวทย์วิเศษภักดี ศรีสัตยาวัตตาพิริยพาหะ (ทองดี ธรรมศักดิ์) กับคุณ
หญิงชื้น ธรรมศักดิ์
• ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๐
• สมรสกับท่านผู้หญิงพะงา เพ็ญชาติ มีบุตรด้วยกัน ๒ คน คือ นายชาติศักดิ์
ธรรมศักดิ์ กับนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์
• ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๕ สิริรวมอายุได้ ๙๔ ปี
ศาสนิกชน ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
ตัวอย่าง
• เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
• เมื่อเรียนจบ ได้ทำงานเป็ นนักเรียนล่าม ประจำกระทรวง
ชีวิตการศึกษา ยุติธรรม เรียนวิชากฎหมาย ระหว่างนั้นได้อุปสมบทและสอบไล่
นักธรรมตรีได้ที่ ๑
• เมื่อจบเนติบัณฑิตไทย ได้สอบชิงทุน รพีบุญนิธิ วิชากฎหมายที่
สำนักกฎหมาย ประเทศอังกฤษ เพียงเวลา ๒ ปี ๓ เดือน ก็
สำเร็จเป็ นเนติบัณฑิตอังกฤษ
• เข้ารับราชการกระทรวงยุติธรรม ในตำแหน่งผู้พิพากษาฝึ กหัด
• ก้าวหน้าในหน้าที่ราชการในตำแหน่งอื่นๆ อย่าง ผู้พิพากษา
ศาลอุทธรณ์, ข้าหลวงยุติธรรมภาค ๔, ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ชีวิตการทำงาน ฯลฯ
• ร่วมก่อตั้ง พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย และจดทะเบียนเมื่อ
พ.ศ.๒๔๗๖
• เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรด
เกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี และยังเคยเป็ นอธิการบดี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย
• ดำรงตำแหน่งนายกพุทธสมาคมแห่งปะเทศไทย
งานด้านพระพุทธ • เป็ นประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกยาวนานถึง
ศาสนา ๑๕ ปี
• ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติชั้นที่ ๑ ในวาระฉลองครบรอบ ๕๐
ปี ขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก เป็ นบุคคลที่มี
คุณูปการแก่องค์การพุทธศาสนา
ศาสนิกชน ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
ตัวอย่าง
คุณธรรมที่ควรถือเป็ น
แบบอย่าง
• เป็ นผู้ใฝ่ รู้ใฝ่ ศึกษา มีความวิริยอุตสาหะจนสามารถสอบเป็ นเนติบัณฑิตอังกฤษ
ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียนศึกษาพระพุทธศาสนาและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด

• เป็ นผู้มีความกตัญญูกตเวที เมื่อครั้งสิ้นบิดา ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก


พระยาอรรถกฤตินิรุตติ์ ศิษย์ของบิดา เมื่อมีโอกาสสนองคุณท่านก็ยินดีทำ

• เป็ นผู้ซื่อสัตย์สุจริต ได้รับการหล่อหลอมโดยสายเลือดจากบิดาผู้เป็ นนัก


กฎหมายที่มีความซื่อสัตย์ ยุติธรรม เข้ารับราชการก็ยึดมั่นในคุณธรรมจน
ปรากฏแก่สายตาของสังคม
• เป็ นผู้ใฝ่ ธรรม ได้อุปสมบท เมื่อลาสิกขาออกมาแล้วก็ใส่ใจศึกษาธรรมตลอด
เวลา เป็ นผู้รู้ธรรมะลึกซึ้งและปฏิบัติได้ตามที่รู้ที่ศึกษามา

• เป็ นผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านมีโอกาสได้รับใช้ใต้เบื้อง


พระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ท่านได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานสนองพระ
เดชพระคุณด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ชาดก นันทิวิสาล
ชาดก
• สมัยหนึ่ง ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับ ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัต
ถี ทรงยกเรื่องพระฉัพพัคคีย์ (กลุ่มภิกษุ ๖ รูป) ชอบพูดถ้อยคำเสียด
แทงจิตใจคนอื่น ทรงเล่านิทานว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่เมืองตักศิลา พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็ นโค


นามว่า นันทิวิสาล ซึ่งมีรูปร่างลักษณะสวยงาม มีพละกำลังมาก มี
พราหมณ์คนหนึ่งได้เลี้ยงและรักโคนั้นเหมือนลูกชาย โคนั้นคิดจะ
ตอบแทนบุญคุณ จึงให้พราหมณ์ไปท้าพนันกับเศรษฐีโควินทะว่า โค
ของเราสามารถลากเกวียนที่ผูกติดกันถึงหนึ่งร้อยเล่มได้ ให้พนันด้วย
ในวันเดิมพัน ถึงเวลาพราหมณ์ก็ได้ขึ้นไปนั่งบนเกวียน
เงินหนึ่งพันกหาปณะ พราหมณ์จึงทำตามที่โคบอก เงื้อปฏัก
ขึ้นพร้อมกับตวาดโคด้วย คำหยาบ เมื่อโคนันทิวิสาลได้ยินก็คิด
น้อยใจ จึงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ทำให้พราหมณ์ต้องเสียพนัน แล้วก็
เข้าไปนอนเศร้าโศกเสียใจอยู่ในบ้าน ส่วนโคนันทิวิสาลเห็นพราหมณ์
เศร้าโศกเสียใจจึงเข้าไปปลอบและบอกให้พราหมณ์กล่าวด้วยถ้อยคำ
ไพเราะ และให้ไปท้าพนันใหม่ พราหมณ์จึงทำตามคำแนะนำ โคนันทิ
วิสาลได้ยินคำไพเราะจึงทำตาม ทำให้พราหมณ์ชนะพนัน
ชาดก นันทิวิสาล
ชาดก

• คนพูดคำหยาบย่อมทำให้ตนเดือดร้อน เพราะ
ฉะนั้นไม่ควรพูดคำหยาบ เพราะคำหยาบไม่เป็ นที่
พอใจของใครๆ

คติธรรมของชาดกเรื่องนี้

• คนที่พูดจาไพเราะอ่อนหวานย่อมยังประโยชน์ให้
สำเร็จ ดังนั้นคนเราควรเปล่งวาจาที่ไพเราะอ่อน
หวาน เพราะวาจาที่ไพเราะอ่อนหวานเป็ นที่พอใจ
ของใครๆ
ชาดก สุวัณณหังส
ชาดก
• ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภเรื่องภิกษุณีชื่อ ถูลนันทา ชอบฉันกระเทียมและมักมากใน
อาหารการขบฉัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน จึงทรงนำนิทานมาเล่า
เป็ นสาธก ดังว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ มี
ภรรยาชื่อนางพราหมณี และมีบุตรี ๓ คน ชื่อนันทา นันทวดี และสุ
นันทา ตามลำดับ ต่อมาพราหมณ์สิ้นชีวิตลงไปเกิดเป็ นหงส์ทอง ส่วน
ภรรยาและลูกยากจนลง ด้วยความสงสาร พญาหงส์ทองจึงบินไปที่
บ้านนางพราหมณ์และสลัดขนทองคำให้วันละขน เพื่อนำไปขาย
ครอบครัวจึงมีความเป็ นอยู่ดีขึ้น แต่ด้วยความโลภ นางพราหมณีได้จับ
พญาหงส์ทองถอนขนจนหมด ขนทองคำจึงกลายเป็ นขนนกธรรมดา
เพราะพญาหงส์ทองไม่ได้เต็มใจให้ นางพราหมณีเลี้ยงพญาหงส์ทอง
จนขนงอกขึ้นเต็มตัว พญาหงส์ทองก็หนีไป
ชาดก สุวัณณหังส
ชาดก

• พระพุทธองค์ได้ตรัสพระคาถาว่า “บุคคลควรยินดี
เท่าที่ได้ที่มี เพราะความโลภเกินประมาณ เป็ น
ความชั่วแท้ นางพราหมณีจับพญาหงส์ทองถอนขน
จึงเสื่อมจากทองคำ”
คติธรรมของชาดกเรื่องนี้

• คนที่มีความละโมบโลภมาก ไม่พอใจในสิ่งที่ได้ในสิ่ง
ที่มี ย่อมทำให้ตนเองเป็ นทุกข์ สุดท้ายก็ไม่ได้สิ่งใด
เลย ดังคำที่ว่า “โลภนักมักลาภหาย”

You might also like